- Details
- Category: การตลาด
- Published: Friday, 17 April 2020 17:44
- Hits: 6151
จาก ‘ปลั๊กไฟ’ สู่ ‘หน้ากากอนามัยผ้ามัสลินแท้’
บทพิสูจน์ ‘ภาวะผู้นำ’ เมื่อซีอีโอ DATA ต้องพาทุกชีวิตชนะวิกฤติโควิด-19
ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทุกธุรกิจต่างได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย บางธุรกิจอาจต้องปิดตัวลงอย่างถาวร บางธุรกิจจำเป็นต้องเดินต่อไปให้ได้แม้จะก้าวช้าลงบ้าง พวกเขาก็ต้องยอมรับโชคชะตาและพยายามต่อยอด “ไอเดียธุรกิจใหม่” และอาศัย “ความร่วมแรงร่วมใจ” หาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาองค์กรรอดพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้
อภิสฤษฎิ์ นิรุชทรัพย์รดา ประธานบริหาร บริษัท ดาต้าเพาเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลั๊กไฟที่อยู่คู่คนไทยมากกว่า 35 ปีภายใต้ยี่ห้อ ดาต้า (DATA) เขาคือหนึ่งในซีอีโอไทยผู้ไม่ยอมจำนนต่อวิกฤติโควิด-19 โดยเดินหน้าปรับแผนการทำงานภายในองค์กรให้สอดรับกับช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ใส่ใจกับสุขอนามัยและระบบความปลอดภัยสูงสุดทุกระดับ และนี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่ดาต้าจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง กระโจนเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตสินค้ากลุ่มเฮลธ์แคร์ ด้วยการผลิตหน้ากากผ้ามัสลิน 100% Made in Thailand เฟซชีลด์ (Face Shield) และแอลกอฮอล์เจล เพื่อต่อลมหายใจให้กับพนักงานของเขา และรักษาองค์กรให้อยู่รอดต่อไป
อภิสฤษฎิ์ เล่าว่า ปัจจุบัน ดาต้า ยังคงเดินเครื่องผลิตปลั๊กไฟ ซึ่งเป็นโปรดักส์หลักของบริษัทฯ อยู่เช่นเดิม แม้ยอดขายอาจลดลง และต้องเผชิญกับเหตุการณ์ลูกหนี้ขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปก่อน ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ หรือระงับการสั่งสินค้า ขณะที่สายพานการผลิตยังทำงานอยู่ ก็จำเป็นต้องปรับแผนการทำงานให้สอดรับกับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเบื้องต้นจะเน้นดูแลสวัสดิการของพนักงานตามมาตรการรัฐอย่างเข้มงวด อาทิ ระบบการคัดกรองบุคลากรก่อนเข้างานด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย มีจุดล้างมือและแอลกอฮอล์เจลกระจายอยู่ทั่วบริเวณปฏิบัติงาน บริษัทฯ แจกหน้ากากผ้าให้กับพนักงานทุกคน คนละ 2 ชิ้น และปรับตำแหน่งการทำงานให้เหมาะสมกับ Social Distancing สร้างระยะห่างระหว่างพนักงาน 50 เซนติเมตร เตรียมข้าวสารไว้ให้พนักงาน และพึ่งพามาตรการช่วยเหลือต่างๆ ของภาครัฐ
แต่เมื่อสถานการณ์ยังคงวิกฤติและไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะจบลงเมื่อใด สิ่งที่จะสะท้อนความอยู่รอดขององค์กรได้เด่นชัดที่สุด คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ซึ่งซีอีโอของ DATA ยกให้ “พนักงาน” คือหัวใจขององค์กร ซึ่งจำเป็นต้องเร่งสร้างกำลังใจและความเข้มแข็งภายในองค์กรทุกมิติ ขณะเดียวกันผู้บริหารเองก็ยกให้ “ลูกน้อง” เป็น “ฮีโร่” ช่วยพยุงความอยู่รอดของบริษัทฯ ได้ด้วยเช่นกัน เมื่อวันหนึ่งลูกน้องเข้ามาปรึกษาถึงความเป็นไปได้ที่โรงงานจะผลิตหน้ากากผ้าเพื่อจำหน่ายบ้าง จากความร่วมแรงร่วมใจ การสื่อสารกับลูกน้อง การรับฟัง ความเข้าใจ การแก้ปัญหาและหากทางออกร่วมกัน จึงทำให้ ดาต้า นำเสนอผลิตภัณฑ์ “หน้ากากผ้ามัสลิน 100%” ออกมาสู่ตลาด เป็นโปรดักส์ตัวใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19
“ผมเองก็ต้องบริหารจัดการให้บริษัทฯ รอด และทุกคนควรจะรอดด้วยกัน สินค้ากลุ่มเฮลธ์แคร์ อย่าง หน้ากากผ้ามัสลิน 2 ชั้นแท้ 100% ที่เราจำหน่าย เราผลิตขึ้นโดยกำหนดราคาขายจากต้นทุนที่แท้จริง เพราะอยากให้คนซื้อแล้วนำไปขายต่อ ได้เงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัวของเขา เราต้องการทำเพื่อต่อชีวิต ไม่ใช่ฉวยโอกาส หากคำนวณจากราคาขายส่งชิ้นละ 13-15 บาท ซึ่งคิดจากต้นทุนวัตถุดิบ 5 บาท ค่าแรงพนักงานของเราอยู่ที่ 9 บาท แทบจะไม่บวกกำไรเลยด้วยซ้ำ และเมื่อเรามองถึงการสร้างรายได้ เราก็เริ่มอยากกระจายรายได้ต่อ โดยกระจายการผลิตไปสู่ชุมชน หรือสร้างโอกาสให้คนตกงานมาเป็นแรงงานรับจ้างเย็บหน้ากากให้เรา ทำให้ทุกวันนี้มีกำลังการผลิตมากกว่า 2 หมื่นชิ้นต่อวัน เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากวันแรกที่ทำได้เพียง 800 ชิ้นเท่านั้น”
จาก “ไอเดีย” คนทำงานสานต่อด้วยการปรับแผน ปรับกลยุทธ์ ปรับนวัตกรรมอย่างรวดเร็วของผู้บริหาร ทำให้เกิดอีกหนึ่งไลน์การผลิต นั่นคือ เฟซชีลด์ (Face Shield) ผลิตจากพลาสติก PP ยืดหยุ่น และพัฒนาต่อยอดขึ้นรูปต้นแบบ (Mole) จากโครงสร้างเดิมให้สามารถผลิตเพื่อแจกจ่ายและจำหน่ายได้เร็วที่สุด มาพร้อมคุณสมบัติทำความสะอาดง่าย (Easy to Clean) และต้องสามารถรีไซเคิลได้ ต่อด้วยการผลิตแอลกอฮอล์เจล ทั้งนี้ ไม่ใช่การผลิตเพื่อจำหน่ายเท่านั้น แต่ยังจับมือกับผู้บริหาร อลาสต้า แบรนด์หนังปลาทอดกรอบ และพี่น้องโรงเรียนสวนกุหลาบ ร่วมกันบริจาคเฟซชีลด์ให้กับโรงพยาบาลที่มีความต้องการ โดยแจ้งความประสงค์มาทางเฟซบุ๊กของ ดาต้า เพื่อจะจัดส่งให้ตามกำลัง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เราไม่เคยรู้หรอกว่าเราเก่งอะไร จนกระทั่งเราลงมือทำมันขึ้นมา เมื่อเรากล้าทำสิ่งที่แตกต่าง และรอดไปด้วยกัน นั่นแหละคือความสำเร็จ และเราจะยังคงเป็น บริษัท ดาต้าเพาเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตปลั๊กไฟที่เชื่อในสิ่งที่ดีที่สุด ที่เชื่อเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัย ถึงแม้จะเกิดข้อบกพร่อง เราก็ขอพัฒนาต่อ โดยมอง (ธุรกิจ) ให้ขาด และรู้ว่าจะต้องพัฒนาต่ออย่างไร และเราจะพยายามคิดธุรกิจแบบสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต ซึ่งมีแผนที่จะโฟกัสการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น ธุรกิจที่ทำขึ้นเพื่อลดการพึ่งพา ลดภาวะเมืองใหญ่ลง แต่ขยายความเป็นเมืองเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นให้มากขึ้น (Urban) ซึ่งกำลังมองหาผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันมาแชร์ไอเดียร่วมกันอยู่”
เหล่านี้คือบทสรุปทรรศนะผู้นำที่ยอดเยี่ยมของอภิสฤษฎิ์ และยังสามารถการันตีได้ว่า DATA จะกลับมาผงาดบนสังเวียนการค้าอีกครั้งอย่างแน่นอน ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.datatrustedpower.com/ หรือ สั่งซื้อสินค้าผ่าน https://www.facebook.com/datatrustedpower/
AO4371
******************************************
Click Donate Support Web
