- Details
- Category: การตลาด
- Published: Thursday, 06 February 2020 16:58
- Hits: 3657
มิวสิคพลัสซีนีม่า เผยโฉมขั้นสุดนวัตกรรมเครื่องเสียงไฮเอนด์ออดิไฟล์ไร้สาย ‘Formation’ และหูฟังจาก Bowers & Wilkins พรีเมียมแบรนด์เบอร์หนึ่งจากอังกฤษ ตั้งเป้าสู่ผู้นำด้านเครื่องเสียงในไทย
บริษัท มิวสิคพลัสซีนีม่า จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวชุดเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ไฮเอนด์ไร้สาย “Formation” (ฟอร์เมชั่น) และหูฟังไร้สายซีรีย์ใหม่ จากแบรนด์โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ (Bowers & Wilkins) พรีเมียมอันดับหนึ่งจากประเทศอังกฤษ เผยโฉมมิติใหม่แห่งการฟังเพลงเสียงคุณภาพระดับออดิโอไฟล์มาตรฐานสตูดิโอแอบบี้โรด (Abbey Road) ผ่านเทคโนโลยีไร้สาย เพียงเชื่อมต่อบลูทูธ หรือไวไฟ ก็เข้าถึงเสียงคุณภาพระดับออดิโอไฟล์ได้เพียงไม่ถึงวินาที พร้อมตั้งเป้าสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ระดับไฮเอนด์ในไทย
นายจุย เซียง ลี (Mr. Jui Siang Lee) ผู้จัดการส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ จำกัด เปิดเผยว่า “กว่าครึ่งศตวรรษที่แบรนด์โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ (Bowers & Wilkins) ได้สร้างตำนานลำโพงเสียงคุณภาพ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1966 จนเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพเสียงระดับออดิโอไฟล์ที่สตูดิโอชื่อดังอย่าง แอบบี้โรด (Abbey Road) ได้นำลำโพงของโบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ไปใช้อ้างอิงในการบันทึกเสียง ซึ่งเราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมการผลิตลำโพงสู่ความเป็นเอกลักษณ์และยกระดับการฟังสู่คุณภาพเสียงไฮเอนด์ อาทิ ในปี ค.ศ.1993 โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ได้สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีชที่โลกต้องจารึกกับคอลเลคชั่นนอติลูส (Nautilus) ที่เป็นการสร้างอัตลักษณ์เฉพาะของรูปลักษณ์ลำโพงโบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ด้วยทฤษฎีเชิงฟิสิกส์ในการจัดวางตัวขับเสียงบนแผงหน้าลำโพงให้ลดหลั่นเพื่อชดเชยทางเฟส พร้อมยกตู้ลำโพงสูงลอยขึ้นจากพื้นที่ไม่มีส่วนใดขนานกันเลย จึงทำให้ปราศจากเสียงเพี้ยน และได้ดีไซน์ที่ล้ำสมัยแบบที่ในยุคนั้นไม่มีใครทำมาก่อนและกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ทุกคนจำได้มาจนทุกวันนี้
และอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์ของโบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ คือการนำเพชรวัสดุที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดมาผลิตเป็นตัวขับเสียงที่ให้พลังขับเสียงสูงชั้นเยี่ยม ใช้ในการผลิตลำโพงไฮเอนด์หลายรุ่น และรุ่น 800 ซีรีย์ ไดม่อน (Series Diamond) ถือเป็นรุ่นฮิตตลอดกาลของโบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ที่ได้รับการยอมรับจากนักฟังหูทองทั่วโลกในเรื่องปราศจากเสียงเพี้ยน
และในปี ค.ศ. 2020 นี้ เราได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์วงการเครื่องเสียงออดิโอไฟล์อีกครั้งด้วย “ฟอร์เมชั่น ซีรีย์” (Formation Series) ลำโพงไฮเอนด์คุณภาพเสียงออดิโอไฟล์ไร้สาย รุ่นแรกของโลกที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยเราได้พัฒนาเทคโนโลยีระบบลำโพงให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์สังคมยุคดิจิทัล ที่เป็นสังคมไร้สาย เพื่อให้ทุกการเชื่อมโยงทำได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าในเรื่องคุณภาพเสียงไฮเอนด์ที่หลายคนจะยังติดอยู่กับเรื่องสายที่ต้องต่อกับเครื่องเสียงอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น ซีดี, พาวเวอร์แอมป์ และ พรีแอมป์ ทำให้เกิดความยุ่งยากและราคาสูง แต่วันนี้โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ได้ตัดความยุ่งยากต่างๆ ออกไป แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์อยู่เช่นเดิม ภายใต้ไอเดีย “เรียบง่าย” (Simply) ที่ให้ทุกคนเข้าถึงความสุขในการดื่มด่ำคุณภาพเสียงออดิโอไฟล์ได้ง่ายขึ้น ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น
ซึ่งในปีนี้เราวางแผนในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มไร้สาย ทั้งชุดเครื่องเสียงฟอร์เมชั่นและยังมีหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นภายใต้แนวคิดการนำเสียงออดิโอไฟล์ระดับไฮเอนด์มาตรฐานเดียวกับสตูดิโอห้องอัดระดับโลกมาไว้ในหูฟัง ที่จะไปกับคุณได้ทุกที่ทุกไลฟ์สไตล์ โดยวางแผนจัดจำหน่ายทั่วโลก ซึ่งตลาดในประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นตลาดสำคัญของกลุ่มลูกค้าระดับบนในภูมิภาคอาเซียน
โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 เราได้เลือก บริษัท มิวสิคพลัสซีนีม่า จำกัด (M+C) ในเครือโซนิค วิชั่น เป็นมาเป็นพันธมิตรธุรกิจในการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ อย่างเป็นทางการ แต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย ด้วยเล็งเห็นถึงความสามารถและศักยภาพของมิวสิคพลัสซีนีม่า (M+C) ที่มีความพร้อมและความชำนาญในตลาดเครื่องเสียงของไทยมากว่า 20 ปี และมีศักยภาพในการสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์เครื่องเสียงต่างๆ ทั้งด้านมัลติมีเดีย รถยนต์ โฮมออดิโอ รวมถึงยังสร้างยอดขายของสินค้าประเภทแอมพลิฟายด์สู่อันดับหนึ่งของเอเชีย ตลอดจนในด้านการดูแลลูกค้าและบริการหลังการขายที่มิวสิคพลัสซีนีม่า ทำได้ดีมาโดยตลอด ดังนั้นในครั้งนี้เราเชื่อมั่นว่า มิวสิคพลัสซีนีม่า จะสามารถนำฟอร์เมชั่น จาก โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ขึ้นสู่อันดับหนึ่งกลุ่มเครื่องเสียงไฮเอนด์ สำหรับตลาดในไทย”
นายสมัคร สมัครคามัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิวสิคพลัสซีนีม่า จำกัด ในเครือโซนิค วิชั่น กล่าวว่า “ชุดเครื่องเสียง ฟอร์เมชั่น ซีรีย์ (Formation Series) และหูฟังไร้สายออดิโอไฟล์ จาก โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ถือเป็นนวัตกรรมขั้นสุดของอุตหสากรรมชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ที่นำเทคโนโลยีไร้สาย มาลดทอนความยุ่งยากในการติดตั้งชุดเครื่องเสียง แต่ยังมาตรฐานคุณภาพเสียงออดิโอไฟล์ระดับไฮเอนด์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิด “ความสุขง่ายๆ ทั่วทั้งบ้าน ด้วยคุณภาพเสียงแบบออดิโอไฟล์” ด้วยการออกแบบและผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลที่ตอบโจทย์ความง่ายในการเข้าถึงความสุขแห่งเสียงเพลงคุณภาพไฮเอนด์ที่สามารถแบ่งปันให้กับสมาชิกทุกคนภายในบ้าน เข้ากับการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ระดับตำนานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมากว่าครึ่งศตวรรษของ โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ซึ่ง ฟอร์เมชั่น ซีรีย์ (Formation Series) มีให้เลือกถึง 6 รุ่น 6 แบบ ตามความต้องการของลูกค้าและขนาดของห้อง ได้แก่ ดูโอ (DUO), เวดจ์ (WEDGE), เฟลกซ์ (FLEX), บาร์ (BAR), ซัพ (SUB) และออดิโอ (AUDIO) โดยสนนราคาดังนี้
- Formation Duo ราคาคู่ละ 179,000 บาท
- Formation Bar ราคา 53,900 บาท
- Formation Bass ราคา 44,900 บาท
- Formation Wedge ราคา 39,900 บาท
- Formation Audio ราคา 31,900 บาท
- Formation Flex ราคา 21,900 บาท
ฟอร์เมชั่น ซีรีย์ (Formation Series) มาพร้อมกับระบบมัลติรูม ออดิโอ (MultiRoom Audio) สามารถเชื่อมต่อการใช้งานได้หลายพื้นที่ แบบไม่มีสะดุด ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย “ฟอร์เมชั่น ไวเลส เมส” (Formation Wireless Mesh) เป็นเครือข่ายเฉพาะที่แยกอย่างเป็นอิสระจากระบบไวไฟ (Wi-fi) ในบ้าน จึงได้ทั้งสัญญาณการเชื่อมต่อและคุณภาพเสียงที่เสถียรและความเร็วสูง รองรับข้อมูลระดับ 96kHz/24-bit ด้วยความเร็วในการเชื่อมต่อเพียง 0.000001 วินาที สั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่น โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ โฮม บนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต แต่ยังคงคุณภาพเสียงไฮเอนด์มาตรฐานสตูดิโอบันทึกเสียงตามแบบฉบับที่นักฟังหูทองยอมรับให้เป็นเครื่องเสียงเวิลด์คลาสที่ดีที่สุดในยุคนี้ การันตีโดยหนึ่งในกูรูเครื่องเสียงอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่าง คุณชัยวัฒน์ จงพัฒนากิจเรือง ผู้บริหารจาก บริษัท ปิยะนัส อิเล็คทริคส์ กรุ๊ป จำกัด ที่ยืนยันว่า ฟอร์เมชั่น คือมิติใหม่ที่พลิกโฉมวงการเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ระดับไฮเอนด์ที่ให้ทั้งความทันสมัย ความรวดเร็วในการเชื่อมต่อที่สามารถถ่ายทอดพลังเสียงไฮไฟได้อย่างไม่มีที่ติ”
นอกจากนี้อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของ โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ในกลุ่มไร้สาย คือ หูฟัง ที่ครั้งนี้ได้ออก ซีรีย์ใหม่ 4 รุ่นได้แก่ อินเอียร์เฮดโฟน (In-Ear Headphone) พีไอ3 (PI 3) และ พีไอ4 (PI 4), ออนเอียร์เฮดโฟน (On-Ear Headphone) PX 5, และโอเวอร์เอียร์เฮดโฟน (Over-Ear Headphone) PX 7 ภายใต้คอนเซปต์ “Purest Listen” ที่ให้คุณภาพเสียงออดิโอไฟล์ชัดใส ไร้เสียงรบกวน เสมือนการฟังเครื่องเสียงไฮเอนด์หลักแสนในหูฟัง และสามารถพกพาไปกับคุณได้ทุกที่ ทุกไลฟ์สไตล์ โดย พีไอ3 (PI 3) และพีไอ4 (PI 4) ออกแบบมาเป็นหูฟังคล้องคอ (Neck Band) ด้วยวัสดุคุณภาพอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ ให้ความทนทานและถ่ายทอดคุณภาพเสียงออดิโอไฟล์ได้คมกริบ โดย พีไอ3 (PI 3) ใช้งานได้นาน 8 ชั่วโมง และ พีไอ4 (PI 4) ใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง ในราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท ส่วน พีเอ็กซ์5 (PX 5) มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนเงียบสนิทไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ฟังเสียงคุณภาพได้อย่างเสถียรไม่มีสะดุด ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ พีเอ็กซ์7 (PX 7) เป็นอีกหนึ่งการพัฒนาขั้นสุดของการถอดแบบเชิงกลชุดเครื่องเสียงออดิโอไฟล์ 800 ซีรีย์ ไดม่อน (Series Diamond) ที่ใช้ในสตูดิโอแอบบี้โรด (Abbey Road) มาสู่หูฟังแบบครอบหู (Over-Ear Headphone) ที่ให้มิติการฟังแบบก้องกังวานไร้ขีดจำกัด และเสียงรบกวน ตัดสลับฟังก์ชั่นรับสายเรียกเข้าและหยุดการเล่นเสียงอัตโนมัติเมื่อยกหูออก และกลับสู่โหมดการฟังเพลงได้อย่างต่อเนื่อง แถมใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมง โดยไม่ต้องชาร์จ โดย PX 5 วางจำหน่ายที่ราคา 12,500 บาท, PX7 ราคา 16,900 บาท
โดยในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มหูฟัง มิวสิคพลัสซีนีม่า ได้จับมือร่วมกับ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ อย่างเป็นทางการ โดยไว้วางใจให้เป็นพาร์ทเนอร์หลักในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ดิสทริบิวเตอร์ (Exclusive Distributor) ในกลุ่มสินค้าไอที ทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ ในฐานะที่ซินเน็คฯ เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอที เทคโนโลยี หูฟัง และแก็ทเจ็ทต่างๆ อันดับหนึ่งของประเทศไทย และมีศักยภาพในการบริหารตัวแทนจำหน่ายให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วประเทศผ่านช่องทางทั้งร้านค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า และช่องทางอีคอมเมิร์ช โดยพร้อมจัดจำหน่ายแล้วสำหรับหูฟังรุ่น พีไอ3 (PI 3), พีไอ 4 (PI 4), พีเอ็กซ์5 (PX 5) และ พีเอ็กซ์ 7 (PX 7) มิวสิคพลัสซีนีม่าจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมธุรกิจกับซินเน็คฯ และคาดหวังว่าการจับมือพันธมิตรธุรกิจครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมยอดขายของสินค้ากลุ่มหูฟังซีรีย์ใหม่แบรนด์ โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ได้กว่า 30 ล้านบาท ในปี 2563 นี้” กรรมการบริหาร มิวสิคพลัสซีนีม่า กล่าวทิ้งท้าย
ชุดเครื่องเสียงฟอร์เมชั่น มีวางจำหน่ายแล้วที่โชว์รูม โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ ทั้ง 3 สาขา ได้แก่ โซนิค วิชั่น ถนนพระราม 3, คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (Crystal Design Center) เซ็นทรัลเวิล์ด และร้านปิยะนัสทุกสาขา ดีลเลอร์ของมิวสิคพลัสซีนีม่า, โมเดิร์น เทรด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02-681-7500-5 หรือ โทร. 085-200-2820 และหูฟัง รุ่น พีไอ3 (PI 3), พีไอ 4 (PI 4), พีเอ็กซ์5 (PX 5) และ พีเอ็กซ์ 7 (PX 7) สามารถหาซื้อที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในเครือ บมจ.ซินเน็คฯ ภายใต้สัญลักษณ์รับประกัน Trusted by Synnex ทั่วประเทศ รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.synnex.co.th หรือ Synnex Care 1251
AO2086
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web