- Details
- Category: การตลาด
- Published: Saturday, 04 October 2014 07:45
- Hits: 2718
ชาวเกาะ' แตกไลน์ 'กะทิ' ควบ 'น้ำมะพร้าว'
บ้านเมือง : เทพผดุงพรมะพร้าว ประกาศเปิดควบ 2 ไลน์ ใหม่ "กะทิบรรจุกล่องยูเอชที" และ "น้ำมะพร้าวบรรจุกล่องยูเอชที" ด้วยงบลงทุน 300 ล้านบาท ชูความสดหอมมันเช่นเดียวกับกะทิคั้นสด และปริมาณโพแทสเซียมสูงในน้ำมะพร้าว เหมาะเป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ตามธรรมชาติ โดยวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 2 ชนิดในระดับพรีเมียม ทำให้สามารถเพิ่มปริมาณสินค้าส่งออกได้กว่า 20% ส่งผลยอดขายทั้งปีโตทะลุเป้า พร้อมเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตต้นปี 2558
นายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัว ผลิตสินค้าใหม่ "กะทิบรรจุกล่องยูเอชที" และ "น้ำมะพร้าวบรรจุกล่องยูเอชที" ด้วยงบลงทุน 300 ล้านบาท การเพิ่มไลน์การผลิตสินค้าทั้ง 2 ประเภทนี้ เป็นไปตามความต้องการของตลาดโลก โดยเฉพาะฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการผลิตภัณฑ์พรีเมียมประเภทกะทิบรรจุกล่องยูเอชที เพื่อใช้ในอุตสากรรมอาหารและเบเกอรี่ที่ต้องการความสดใหม่หอมมันเหมือนกะทิคั้นสดที่มากกว่าสินค้าที่มีอยู่ในท้องตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่จัดว่าเป็นน้ำเกลือแร่จากธรรมชาติ (Mineral water) ซึ่งใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพิ่มความสดชื่น กำลังเป็นที่นิยมและมีความต้องการสูงในตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ จึงได้เพิ่มไลน์การผลิตน้ำมะพร้าวบรรจุกล่องยูเอชทีด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋องที่มีอยู่เดิม
สินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ "ชาวเกาะ" ที่เน้นผลิตเพื่อการส่งออก มีตลาดหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวบรรจุกล่องยูเอชทีนั้นมุ่งจับกลุ่มผู้รักสุขภาพ รวมถึงในธุรกิจฟิตเนสที่นิยมจำหน่ายน้ำมะพร้าวเพื่อเพิ่มความสดชื่น และชดเชยการสูญเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายให้กับผู้มาใช้บริการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ที่ส่งเสริมให้มีการพัฒนาน้ำมะพร้าวให้เป็น "เครื่องดื่มเกลือแร่" เนื่องจากมีปริมาณแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ โดยเฉพาะโพแทสเซียมในปริมาณสูง รวมถึงกลูโคสที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย
ระยะแรกของการผลิตกะทิบรรจุกล่องยูเอชทีและน้ำมะพร้าวบรรจุกล่อง ยูเอชที จะเดินเครื่องภายใต้กำลังการผลิต 30,000 ตันต่อปี หรือราว 60% ของกำลังการผลิตสูงสุดก่อน เมื่อเดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิตที่ 50,000 ตันต่อปีในต้นปี 2558 จะช่วยให้เรามีปริมาณสินค้าพร้อมส่งเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% ส่งผลให้โอกาสในการเติบโตของยอดขายรวมมีสูงกว่าประมาณการที่กำหนดไว้
นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายทั้งปีไว้ที่ 10% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งสิ้นไตรมาส 2/2557 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าครึ่งปีหรือ 2,500 ล้านบาทแล้ว ดังนั้นเมื่อมีสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มพร้อมกับการบุกตลาดอย่างเต็มที่ในช่วงปลายปี ก็คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายให้ขยับเข้าไปใกล้ 5,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 15% ได้ไม่ยากนัก ซึ่งถือเป็นยอดขายสูงสุดเท่าที่เราเคยทำได้อีกด้วย