WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

เบอร์ลี่ยุกเกอร์ ชิมลางขายตรงส่งเครื่องสำอางค์ปั้นยอดขาย

      บ้านเมือง : เบอร์ลี่ ยุกเกอร์ ทุ่มงบฯ ร่วม 100 ล้านบาท พัฒนาระบบงานเพิ่มช่องทางตลาดใหม่หวังกระตุ้นยอดขายแบบก้าวกระโดด ชิมลางส่งสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางแบรนด์ "พรีเมดิกา พลัส" เข้าระบบขายตรงผ่านเครือข่ายพันธมิตร "มายบิซ อินเตอร์เนชั่นแนล" พร้อมตั้งเป้า 300 ล้านบาทในปี 58 ก่อนเข้าระบบอี-คอมเมิร์ซและบุกตลาดเออีซี

      นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและฝ่ายธุรกิจ "อี คอมเมิร์ซ" บริษัท เบอร์ลี่ ยุกเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาพรวมตลาดขายตรงในปี 2556 มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 16-18% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยบริษัทฯ มียอดขายผ่านการขายตรงเติบโตประมาณ 10% จึงมีเป้าหมายเดินหน้าธุรกิจขายตรงมากขึ้น เพื่อนำสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง โดยร่วมมือกับ บริษัท มายบิซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งถือเป็นผู้นำธุรกิจขายตรงและสินค้าความงามที่มีเครือข่ายขายตรงและแผนการพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการในตลาดคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

      "เราได้จัดตั้งบริษัท BJC อีคอมเมิร์ซ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจขายตรงและอี-คอมเมิร์ซ พร้อมมีการลงทุนด้านการวางระบบต่างๆ ประมาณ 50-100 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขยายช่องทางการตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ให้ความสำคัญผ่าน โมเดิร์นเทรดเป็นหลัก เนื่องจากในช่วงหลังๆ มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีการเติบโตเฉลี่ยเพียง 5-6% ต่อปี ทำให้มีผลกำไรลดลงเหลือประมาณ 10% จากเดิมที่เคยเติบโตประมาณ 10-20% โดยในปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้ในกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (Non Food) ประมาณ 6 พันล้านบาท"

     สำหรับ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จะเริ่มทำตลาดขายตรงในเบื้องต้นคือเครื่องสำอางที่พัฒนาใหม่ล่าสุด "พรีเมดิกา พลัส" (Premedica +) ภายใต้แบรนด์เดิมคือ "พรีเมดิกา" (Premedica) โดยก่อนหน้านี้มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านวัตสัน ร้านบู๊ทส์ และร้านเครื่องสำอางชั้นนำทั่วไป ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราการเติบโตดี และตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้รักความงามและผิวพรรณ โดยคาดว่าการร่วมมือกันทำตลาดครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้สมาชิกธุรกิจเครือข่ายของ "มายบิซ" สามารถขยายฐานธุรกิจและลูกค้าได้เพิ่มขึ้น

     "ในเบื้องต้นเราจะเน้นจำหน่ายสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางเป็นหลัก โดยคาดว่าภายในปี 2558 จะสามารถทำรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท จากนั้นจะพัฒนาสินค้าประเภทอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป เช่น อาหารเสริม และสินค้าที่มุ่งเจาะตลาดนิชมาร์เกตโดยเฉพาะ โดยยังจะมีการพัฒนาเข้าสู่ระบบอี-คอมเมิร์ซ และขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เพื่อทำยอดขายแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นผล" นายสรรค์ชัย กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!