- Details
- Category: การตลาด
- Published: Tuesday, 30 September 2014 23:07
- Hits: 3332
'อีสท์ เวสท์ ซีด' จับมือ 'มอนซานโต้'หวังเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจ
บ้านเมือง : งอีสท์ เวสท์ ซีด’ จับมือ’มอนซานโต้’สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเมล็ดพันธุ์ ร่วมเซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ หวังขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าสิ้นปีมีรายได้ 3,000 ล้านบาทหรือโต 15% มั่นใจภายในปี 2559 กวาดมาร์เก็ตแชร์ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 38%
นายบรูโน่ เลอฟรัว ผู้จัดการกลุ่ม สายงานขายและการตลาด กลุ่มบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกลุ่มอีสท์ เวสท์ ซีด บริษัทผู้นำตลาดด้านเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อน กับกลุ่มมอนซานโต้ บริษัทด้านเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งจากการร่วมมือกันในครั้งนี้จะสามารถขยายโอกาสทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 38% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,200 ล้านบาท
ด้านนายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักตราศรแดง เปิดเผยว่า ในปีนี้ราคาพืชผักตกต่ำ แม้จะเข้าสู่เทศกาลกินเจแล้วแต่ราคาก็ยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเกษตรกรลงทุนเพาะปลูกไม่มาก ส่งผลให้ตลาดเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนมีมูลค่า 2,200 ล้านบาท เติบโตเพียง 1-2% จากที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ย 5-7%
ทั้งนี้ บริษัทได้จับมือกับกลุ่มมอนซานโต้แต่งตั้งให้บริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดเมล็ดพันธุ์ผักเมืองหนาวแบรนด์เซมินีสและดีรอยเตอร์ เพื่อเปิดตลาดอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนามพม่า และมาเลเซีย นำร่อง 9 รายการ อาทิ ถั่วแขก ผักกาดหอม พริกเผ็ดลูกผสม ผ่านตัวแทนจำหน่าย 300-400 ราย ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 35 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศจะเปิดตลาดใหม่ อาทิ แอฟริกา อเมริกาใต้ และบราซิล จากปัจจุบันรายได้หลักมาจากตลาดอาเซียน ครองความเป็นผู้นำตลาดหลายประเทศ อาทิ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย มีส่วนแบ่ง 70%
สำหรับ ความร่วมมือครั้งนี้จะส่งผลให้ศรแดงมีความแข็งแกร่งตอกย้ำผู้นำตลาดเอเชีย และขยายตลาดได้กว้างขึ้นทั้งในไทยและอาเซียน จากเดิมบริษัทมีเพียงเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนไม่ต่ำกว่า 20 ชนิด ซึ่งกลุ่มมอนซานโต้เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในไลน์เมล็ดพันธุ์ผักเมืองหนาว โดยตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี ขึ้นเป็นผู้นำตลาดอินเดีย เวียดนาม
นอกจากนี้ บริษัทยังทุ่มเทค้นคว้าและปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ๆ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ไซมอน กรูท ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้งบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท เพื่อลดระยะเวลาวิจัยลงเท่าตัว รองรับกับการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งร่วม 100 ราย สิ้นปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 3,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15% แบ่งเป็นรายได้อาเซียน 2,200 ล้านบาท และไทย 800 ล้านบาท ส่วนปี 2559 คาดจะมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 38% เป็น 50% ทิ้งห่างเจียไต๋มีส่วนแบ่งกว่า 10%
ขณะที่ นายเวนโจ ลาเปซ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ประจำทวีปเอเชีย-กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ผักของมอนซานโต้ เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทมอนซานโต้เล็งเห็นถึงศักยภาพทางด้านการตลาดที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านการบริหารเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย และการเข้าถึงกลุ่มเกษตรกร ผ่านทีมงานภาคสนามที่กระจายอยู่ทั่วประเทศของอีสท์ เวสท์ ซีด ในฐานะที่กลุ่มมอนซานโต้มีศักยภาพสูงด้านการพัฒนาสายพันธุ์พืชเมืองหนาว
อย่างไรก็ตาม การผนึกกำลังในครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายได้ขยายโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มมอนซานโต้เองก็สามารถใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายของอีสท์ เวสท์ ซีด เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย และทำให้สินค้าเข้าถึงเกษตรกรได้มากยิ่งขึ้น
สำหรับห้องปฏิบัติการทดสอบเมล็ดพันธุ์พืชของ บริษัท อีสท์เวสท์ ซีด จำกัด ที่จังหวัดเชียงใหม่ แห่งนี้ได้ผ่านการรับรองระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานจากสมาคมทดสอบเมล็ดพันธุ์นานาชาติ ISTA (Internation Seed Testing Association) ซึ่งการรับรองมาตรฐานฯ ของ อีสท์เวสท์ ซีด ครั้งนี้ ถือเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบเมล็ดพันธุ์พืชที่ได้การรับรองมาตรฐานที่เป็นของบริษัทเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปัจจุบันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มีห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเพียงแห่งเดียวและเป็นของรัฐบาลเวียดนาม