- Details
- Category: การตลาด
- Published: Friday, 26 September 2014 22:48
- Hits: 2804
ตลาดปลูกผมบุรุษ แข่งดุพันล้าน MHC โดดลงสนาม งัดทีเด็ดนวัตกรรมล้ำชิงผู้นำ
บ้านเมือง : ตลาดเสริม'ความหล่อ'ชายที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีมูลค่าตลาดรวมเกินกว่าพันล้านบาท ตลาด'คลินิกศีรษะล้าน'จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดให้บริการมากมายหลายแบรนด์ ทั้งคลินิกปลูกผมเฉพาะทางและในรูปแบบคลินิกความงามศีรษะจรดปลายเท้า รวมทั้งสิ้นกว่า 10 ราย
น.พ.ธิติวัฒน์ วีรโรจน์รัชกุล ศัลยแพทย์เจ้าของ Million Hair Transplant Center หรือ MHC ผู้นำตลาดศัลยกรรม ปลูกผมที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและฝีมือแพทย์เฉพาะทาง เผยว่า ตลาดเสริมหล่อ โดยเฉพาะคลินิกศีรษะล้าน มีเกณฑ์เติบโตต่อเนื่องทุกปี จากกระแสหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น สัดส่วนของคนไข้แบ่งเป็นผู้ชาย 80 เปอร์เซ็นต์ ผู้หญิง 20 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยกลุ่มวัยรุ่น 25-35 ปี 25 เปอร์เซ็นต์ 35-45 ปี 50 เปอร์เซ็นต์ 45 ปีขึ้นไป 25 เปอร์เซ็นต์ โดยร้อยละ 96% ของคนไข้ที่มาหามาจากกรรมพันธุ์ การรักษาแต่เดิมใช้ยารับประทานและยาปลูกผม จนถึงการผ่าตัด ขณะที่ปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้ามากขึ้น คลินิกชั้นนำในด้านการรักษาโรคศีรษะล้าน ต่างนำเข้านวัตกรรมที่ได้ผลและเจ็บน้อยที่สุดเข้ามาใช้ เนื่องด้วยข้อจำกัดของโรค คือต้องใช้รากผมคนไข้ ขณะที่รากผมคนเรามีอยู่จำกัด ใช้แล้วหมดไป ถ้าปลูกแล้วไม่ขึ้นก็เท่ากับเสียไปเลย และเหลือรากผมที่ใช้ได้น้อยลง การตัดสินใจปลูกผมจึงต้องเลือกคลินิกที่ดีที่สุด
MHC ได้ตระหนักถึงข้อนี้ดี ที่ผ่านมาจึงได้ทุ่มเงินกว่า 10 ล้านบาท นำเข้า ARTAS หุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่ใช้ในการทำศัลยกรรมปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกาในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยมาใช้ในการรักษาตั้งแต่ปี 2556 ตั้งแต่เปิดคลินิกมามีคนไข้รับการรักษาไปแล้วกว่า 3,000 คน ผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้ MHC มีความมั่นใจว่าจะก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการปลูกผม โดยปัจจุบันมีแพทย์ 2 คน พยาบาลและผู้ช่วย 15 คน องค์กรได้จัดอบรมความรู้เฉพาะด้านทุกปี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ ยังเป็นรายแรกที่จัดทำ Community เล็กๆ ให้คนไข้ได้มาพบปะ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีหลังรับการรักษาด้วย
นอกจากนี้ สิ่งที่ MHC ทำต่อไปคือ พัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด แข็งแรงที่สุดเราพัฒนาตัวเองทุกวันเพื่อทำให้ดีที่สุดทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ก็ได้รับการพัฒนาฝึกอบรม เราส่งพยาบาลไปเข้าเวิร์คช็อปที่ต่างประเทศ ซึ่งเขาจัดทุกปีคนที่เก่งก็จะมาพัฒนาคนที่เก่งรองๆ ลงมาเพื่อให้ทีมของเราแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันเราก็แสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับคนไข้มากที่สุด โดยพยายามทำราคาไม่ให้สูงเกินไป แต่ก็ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เฉลี่ยค่าบริการของ MHC อยู่ระหว่างหลักหมื่นจนถึงหลักหลายแสนบาท ซึ่งหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่นสิงคโปร์ มาเลเซีย ยังนับว่าถูกกว่ามาก
"ตลาดศัลยกรรมปลูกผมในบ้านเราโตเร็ว แต่อาจไม่เท่ากับ เกาหลี ญี่ปุ่น อาจเป็นเพราะคนที่นั่นมีเงินมาก การทำศัลกรรมปลูกผมในประเทศเหล่านี้ราคาแพงมาก รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่เพื่อให้ธุรกิจนี้เกิด แต่ถ้าเทียบในกลุ่มอาเซียนแล้ว เราน่าจะเป็น Center ได้เลย ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมปลูกผมในแถบนี้ ราคาไม่แพง และเทคโนโลยีไม่แพ้ใครเลย ดีไม่ดี เราแซงหน้าด้วยซ้ำไป สำหรับมูลค่าตลาดเสริมหล่อของบุรุษ ในส่วนของคลินิกปลูกผม อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท โดย MHC เป็นคลินิกที่เชี่ยวชาญกว่า 10 ปี อยู่ในกลุ่มผู้นำ มีมาร์เก็ตแชร์ทั้งสิ้น 30 เปอร์เซ็นต์ ปีนี้เราตั้งเป้าเพิ่ม 20 เปอร์เซ็นต์ จากการเปิดให้บริการครบวงจร ทั้ง 1.ปลูกผม 2.ปลูกคิ้ว 3.ปลูกขนตา โดยมีจุดเด่นคือแพทย์และเครื่องมือทันสมัย ใช้นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพียงแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย สามารถทำเวลาในการทำศัลยกรรมปลูกผมจำนวน 1,000 กราฟ ในเวลาเพียง 2 ชม. ปลูกคิ้ว 1.30-2 ชม. และปลูกขนตาเพียง 1 ชม. ขณะที่ได้ผลลัพธ์ดีมาก"
"วันนี้ทีมของเราทำศัลยกรรมปลูกผมระดับพื้นที่ใหญ่ๆ 2,000-4,000 กราฟ เรียกว่า Mega Session 4,000 grafts ขึ้นไป ถึงจะเป็น Giga Session ได้ ทำกราฟเยอะ ทำได้แน่นใกล้เคียงธรรมชาติ ซึ่งทีมที่ทำได้ขนาดนี้ในโลกมีไม่เยอะ! แต่เราเป็นคลินิกหนึ่งในเมืองไทยที่ทำได้ วันนี้ศักยภาพการทำคลินิคปลูกผมของเราไม่แพ้ใคร เราใช้เทคนิคที่ดีที่สุด ทำได้รวดเร็วผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพอใจ ผลแทรกซ้อนต่างๆ ก็น้อยมาก เรียกว่าแทบจะไม่มีเลย เราจึงเชื่อมั่นว่า ทีมของเราพร้อมที่จะเปิดรับทุกโอกาส"
นอกจากนี้ น.พ.ธิติวัฒน์ ยังเผยถึงการเตรียมตัวต้อนรับคนไข้ในต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย, อเมริกา ยุโรป และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเรา มาเลย์ สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า ลาว เขมร ซึ่งปัจจุบันให้ความสนใจมารักษาโรคศีรษะล้านในเมืองไทย เนื่องด้วยได้รับการรักษาด้วยวิทยาการล้ำสมัย ขณะที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่า โดยไม่ได้คิดขยายสาขาไปเมืองนอก เพียงแต่ทำให้ดี ดึงดูดลูกค้าต่างชาติเข้ามา