WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สยามพิวรรธน์ กางแผนลุยค้าปลีก-อสังหา ทุ่ม 5.5 หมื่นล.ต่อยอดธุรกิจ

    แนวหน้า : สยามพิวรรธน์ประกาศแผนลงทุน 5 ปี ทุ่มเม็ดเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท พัฒนาศูนย์การค้า โครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ  พร้อมจับมือพันธมิตรรุกธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่สร้างรายได้เพิ่ม รองรับการเปิดอาเซียน

    นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทมีนโยบาย และแผนการขยายการลงทุนในระยะเวลา 5 ปี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะ ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’ ของวงการผู้พัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ที่ ด้วยแผนการลงทุนซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 55,000 ล้านบาททั้งในส่วนของการพัฒนาศูนย์การค้า และ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบริษัทมีแผนในอนาคต 7-8 โครงการ ในทำเลอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกกรุงเทพมหานคร รวมถึงในต่างประเทศ ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นรูปธรรมในปี 2558

   นอกจากนี้ รวมถึงการลงทุนเองในธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย โดยมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งแผนลงทุนคิดเป็นมูลค่าโครงการรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท คือ ธุรกิจ Specialty Store 3 ถึง 4 แบรนด์ ซึ่งจะเป็น ทั้งแบรนด์แฟรนไชส์จากต่างประเทศ หรือเป็นรูปแบบที่สยามพิวรรธน์สร้างขึ้นเอง

    ล่าสุดอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุนนำแฟรนไชส์ภัตตาคารชื่อดังจากต่างประเทศ 2-3 ราย เข้ามาเพื่อตอบสนองลูกค้าระดับบน และนักท่องเที่ยว การลงทุนในธุรกิจใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างให้ เกิดขึ้นในโครงการต่างๆของสยามพิวรรธน์ โดยธุรกิจที่จะลงทุนจะนำความตื่นเต้นมาสู่วงการอย่างมาก ซึ่งจะสามารถสรุปเป็นรูปธรรมได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

     รวมถึงการต่อยอดในธุรกิจค้าปลีกที่สยามพิวรรธน์ทำอยู่แล้ว เช่น ร้าน Loft แฟรนไชส์ specialty store จากประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดได้รับการต่อสัญญาและจะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 3 แห่งใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ร้าน The Wonder Room, The Selected ที่เปิดในสยามเซ็นเตอร์และประสบความสำเร็จมากในการนำเสนอสินค้าแฟชั่นและของ แต่งบ้านโดยดีไซเนอร์ไทยหน้าใหม่ไฟแรงก็มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเติมในประเทศและได้รับเชิญให้ไปเปิดสาขาในต่างประเทศ

    “วงการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีการประกาศลงทุนโครงการใหม่จากหลายๆ บริษัทคิดเป็นมูลค่ามหาศาล อย่างไรก็ดี สำหรับสยามพิวรรธน์เรามีจุดยืนที่มั่นคงและแข็งแกร่ง ด้วยกลยุทธ์หลัก คือการเป็น ‘ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย’ ที่เราใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจของเราจนประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เปิด บริษัทฯ”

   “โดยเรามุ่งเน้นนำเสนอคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ในการพัฒนาโครงการต่างๆ การค้าปลีกชนิดใหม่ๆ และคอนเซ็ปต์ ไลฟ์สไตล์ล้ำยุคหลายประเภท ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย หรือเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งได้นำพาธุรกิจไปสู่การเติบโตครองความเป็นผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และค้าปลีกแนวหน้าของประเทศไทยในทุกยุคทุกสมัยในวันนี้ เราได้วางแผนกลยุทธ์ 5 ปีที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการลงทุนในอนาคต เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์ในฐานะ ‘ผู้นำนวัตกรรมค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย’”

   นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรระดับโลก เพื่อร่วมลงทุนทำธุรกิจประเภทต่างๆที่แปลกใหม่ให้เกิดขึ้น โดยใน 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการติดต่อจากบริษัทและองค์กรชั้นนำจากต่างประเทศหลายราย เพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ทั้งโครงการที่เกี่ยวกับความบันเทิงระดับโลก ศิลปวัฒนธรรม และธุรกิจค้าปลีกหลายๆประเภท

   โดยสยามพิวรรธน์ มีความตั้งใจที่จะร่วมลงทุนด้วย ซึ่งแผนการลงทุนมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นโดยประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะทยอยเกิดขึ้นใน 3-5 ปีข้างหน้าพร้อมรับการเปิดประตูสู่อาเซียน อย่างเต็มที่ โดยปรับองค์กรและบริษัทในเครือทั้งสิ้น 15 บริษัทฯ ให้มีศักยภาพแข็งแกร่งด้วยนโยบายด้านบริหารจัดการบุคลากร ผ่านการเสริมทัพผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้นำองค์กร โดยจะเชิญผู้มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ มาร่วมเป็นผู้นำองค์กร และเพิ่มตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่เพื่อบริหารจัดการหน่วยงานสนับสนุนโดย เฉพาะให้ขับเคลื่อนตอบรับกับการขยายตัวทางธุรกิจของสยามพิวรรธน์อย่างเต็ม ที่

     นายธรรม์ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมากำลังซื้อผู้บริโภคกลับมาคึกคักมากขึ้น สะท้อนจากยอดการซื้อสินค้า ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า ของขวัญ ดีขึ้นมาก แตกต่างจากช่วงไตรมาสแรกปีนี้ที่ซบเซา คาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้จะคึกคักเช่นกัน เพราะผู้บริโภคมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจปีหน้าว่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ และรัฐบาลมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 ทำให้มีเม็ดเงินออกสู่ระบบเร็วขึ้น ประกอบกับห้างสรรพสินค้าจะมีการจัดแคมเปญช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นอีก คาดว่าปีนี้ยอดขายจะเติบโตได้เป้าหมาย พร้อมกันนี้จะขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งในปีนี้ หลังจากที่เลื่อนมาจากกำหนดเดิม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!