- Details
- Category: การตลาด
- Published: Friday, 08 February 2019 14:48
- Hits: 3949
ฟูจิ ซีร็อกซ์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ'โซลูชั่นงานเอกสารยุคดิจิทัล' ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ Digital Intelligence
เปิดตัวมัลติฟังก์ชั่นใหม่ 14 รุ่น ภายใต้แนวคิด Smart Work Innovation เสริมศักยภาพธุรกิจยุคใหม่ด้วยนวัตกรรมที่เป็นมากกว่างานพิมพ์
ในภาพ (จากซ้ายไปขวา): นายฮิเดยูกิ โมริทาดะ Director, Business Planning & Marketing, นายพิชัย ธัญญวัชรกุล
Director, Area Sales and GCS, นายฮิโรอากิ อาเบะ ประธานบริษัทฯ, นายกิติกร นงค์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจ
และนางสาวโลจนันท์ ชลลัมพี หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
กรุงเทพฯ, 8 กุมภาพันธ์ 2562 - บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจด้านการพิมพ์และโซลูชั่นบริหารจัดการงานเอกสารอย่างครบวงจร เพื่อช่วยลูกค้าเปลี่ยนผ่านการทำงานในยุคดิจิทัล ชูกลยุทธ์ใหม่ Digital Intelligence ภายใต้คอนเซ็ปต์ Smart Work Innovation ที่ได้รับการตอบรับ และเป็นที่สนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา จึงทำให้ต้องการขยายฐานลูกค้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นกับลูกค้าและคู่ค้าต่อไปในปี 2562 โดยเน้นย้ำในเรื่องการเป็นผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องการผสมผสานแนวคิดที่ต้องการเชื่อมโลกการทำงาน และการสื่อสารระหว่างกันอย่างไร้รอยต่อด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีคลาวด์และเอไอ ตอบโจทย์ความเป็นดิจิทัลในองค์กรให้เกิดขึ้น ด้วยหลักการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมแบบ SMART Platform ที่ทำให้เครื่องพิมพ์เป็นมากกว่าแค่การนำไปใช้พิมพ์งาน สแกน สำเนา และส่งแฟกซ์ แต่ต้องเป็นศูนย์รวมของการทำงานและสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ฟูจิ ซีร็อกซ์ฯ ยังได้เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นขนาด A3 รุ่นใหม่ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C Series รวม 14 รุ่น หวังเจาะกลุ่มองค์กรธุรกิจครอบคลุมทุกกลุ่มในตลาด การเงิน กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มการศึกษา กลุ่มสุขภาพ รวมถึงกลุ่มเอสเอ็มอีในไทย โดยตั้งเป้าเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในกลุ่มเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นภายในปี 2562
นายกิติกร นงค์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปี 2561 ที่ผ่านมา เรามุ่งมั่นช่วยเหลือและดูแลลูกค้าของเราในการเปลี่ยนผ่านการทำงานในรูปแบบเดิมๆ ไปสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เพื่อออกแบบโซลูชั่นให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า เราทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคล ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับความสามารถในการสร้างสรรค์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีประสิทธิภาพให้ลูกค้าของเรา ดังนั้นแผนการดำเนินงานของฟูจิ ซีร็อกซ์ในปี 2562 นี้ เราจะยังคงสานต่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัลให้กับองค์กรต่างๆ พร้อมยกระดับการเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยีและกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งเกิดจากการผสมผสาน Machine Intelligence และ Human Intelligence ให้เกิดเป็น Digital Intelligence มาสนับสนุนการทำงานของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และสานต่อแนวคิด Smart Work Innovation ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนให้ธุรกิจต่างๆ เดินหน้าไปสู่ยุค Asean industrial 4.0 อีกด้วย นั่นคือ สิ่งที่ฟูจิ ซีร็อกซ์กำลังมุ่งไปในไตรมาสสุดท้ายจนถึงปี 2562 นี้”
“ทิศทางธุรกิจในปีนี้เราจะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Solution Provider โดยเน้นทำการตลาดในส่วน Solution & Service Business มากขึ้น เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สามารถทำงานร่วมกับใช้โซลูชั่นการพิมพ์ การจัดการต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงการทำงานแบบบูรณาการ โดยนำเรื่องของเทคโนโลยี AI, Cloud, และ RPA (Robotic Processing Automation) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจฮาร์ดแวร์ที่เป็นรายได้หลักควบคู่ไปด้วย และเรายังมุ่งเน้น Solution Selling ด้วยการพัฒนาศักยภาพของทีมขายให้มีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจของลูกค้าในรูปแบบ Consultant เพื่อให้สามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงประเด็นมากขึ้น ภายใต้กลยุทธ์หลักใหม่ Digital Intelligence ที่เน้นการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรธุรกิจให้สามารถแข่งขัน และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนรูปแบบการทำงานขององค์กรในยุคดิจิทัลให้มีความยืดหยุ่น ด้วยเครื่องมือการสื่อสารที่หลากหลายที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคล แผนก และหน่วยงานต่างๆ ในองค์กร เพื่อพัฒนาไปสู่การมี Smart Platform ในแต่ละองค์กรให้มากขึ้น สร้างพื้นที่ทำงานใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ที่เกิดจากการผสานของผู้คน, กระบวนการ และบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในทำงานแบบมีส่วนร่วม และอัตโนมัติยิ่งขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายของแต่ละองค์กร”
“เพราะการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามาดิสรัปชั่นในธุรกิจสิ่งพิมพ์ ทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ในรูปแบบเดิมๆ มีอัตราลดลงก็จริง แต่ความต้องการงานพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ในรูปแบบ Digital Document กลับเพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตขององค์กร แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มการเติบโตและความต้องการงานพิมพ์เพื่อนำไปใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่และเอสเอ็มอียังมีอยู่จำนวนมาก รวมถึงแนวโน้มความต้องการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ e-document ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายกิติกร กล่าวสรุป
นางสาวโลจนันท์ ชลลัมพี หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปี 2561 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความท้าทายของทุกธุรกิจและจะมีความเข้มข้นมากขึ้นในปีนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมมาตั้งแต่ปี 2559 โดยริเริ่มแนวคิด Smart Work Innovation และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เครื่องพิมพ์กลายเป็น SMART Platform ประกอบกับเทรนด์ความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์วันนี้ในองค์กรต่างมองหาโซลูชั่นงานพิมพ์ที่ให้มากกว่าแค่เรื่องฟังก์ชั่นแบบ output แต่ต้องสามารถสื่อสารและจัดการเอกสารผ่านเทคโนโลยี (AI/Cloud) ดังนั้นการออกแบบนวัตกรรมของเราจะเน้นไปใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่ ประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายขึ้น (User Experience), ความปลอดภัยแบบ 360 องศา (Security), สามารถนำดาต้าระหว่างการใช้งานเครื่องพิมพ์มาช่วยเรื่องการคาดการณ์การบำรุงรักษาเครื่อง (Analytics) และที่สำคัญที่สุดคือ การปรับแต่งโซลูชั่นใหม่ๆ สามารถทำได้เสมอ (New Solutions) เพราะโซลูชั่นที่ดีวันนี้อาจจะไม่ตรงกับความต้องการของธุรกิจวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ ดังนั้น ฟูจิ ซีร็อกซ์จึงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และเป็นสิ่งที่เราเน้นในปีนี้ คือ การสร้าง SMART Platform ที่ทำให้เครื่องพิมพ์ต้องเป็นได้มากกว่าแค่การสั่งพิมพ์งานและเดินไปรับเอกสาร แต่ต้องเป็น Gateway ที่เชื่อมโยงให้ทุกอย่างเป็นไปได้ โดยผู้ใช้หรือองค์กรจะสามารถออกแบบและปรับแต่งโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละองค์กร เพราะความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านไอทีและเทคโนโลยีวันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราสร้างอะไรขึ้นมา แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรานำเทคโนโลยีอะไรมาปรับใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับบริการและงานของเรา”
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวในวันนี้ รองรับการใช้งานบนระบบคลาวด์เทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น 'Working Folder'ฟีเจอร์ใหม่มีความสามารถในการแลกเปลี่ยนเอกสารกับบุคคลภายนอกได้สะดวกขึ้น ทุกรุ่นมีฟีเจอร์การทำงานร่วมกับ Cloud Connector ของฟูจิ ซีร็อกซ์อย่าง “Cloud Service Hub” ที่เชื่อมต่อกับ Public Cloud ได้อย่างอัตโนมัติ และสามารถรองรับการสแกนเอกสารอย่างอัตโนมัติ เพื่อถอดข้อความออกจากเอกสารอัตโนมัติ (Optical Character Recognition: OCR) ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสามารถค้นหาไฟล์บนคลาวด์สตอเรจต่างๆ อีกทั้งยังยกระดับความปลอดภัยให้กับเอกสารสำคัญ เมื่อสแกนและแชร์ผ่านคลาวด์สามารถเลือกให้เข้ารหัสเอกสารดิจิทัล ปกป้องการส่งต่อเอกสารนั้นให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งเตือนทางอีเมล์อัตโนมัติถึงผู้ส่งได้อีกด้วย ในรุ่น ApeosPort VII / DocuCentre VII C6673 สามารถสแกนงานได้ถึง 270 หน้าต่อนาที ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์รุ่นเดียวกันในตลาด สามารถรองรับการเติบโตของเอกสารดิจิทัล สแกน และเก็บข้อมูล ได้เป็นระเบียบมากขึ้น รวมถึงยังมีข้อมูลช่วยเหลือ และวิธีใช้บนเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ เพื่อเข้าถึงข้อมูลล่าสุดในการใช้งานที่แสดงบนแผงควบคุมของเครื่องมัลติฟังก์ชั่น หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของเรายังให้ความสำคัญในสิ่งแวดล้อมตามนโยบายรักษ์โลก ด้วยการใช้หมึก Super EA Eco ซึ่งเป็นหมึกที่สามารถหลอมละลายที่อุณหภูมิต่ำกว่าหมึกทั่วไป ที่สามารถรีไซเคิลได้ถึง 99.8% ไม่ก่อให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอีกด้วย”
เกี่ยวกับฟูจิ ซีร็อกซ์:
บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยเป็นบริษัทชั้นนำด้านบริการเอกสารและการสื่อสาร นำเสนอโซลูชั่นและบริการที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ลูกค้าแก้ไขปัญหาท้าทายทางด้านธุรกิจ โซลูชั่นและบริการของเราประกอบสร้างขึ้นจากอุปกรณ์มัลติฟังก์ชั่น เครื่องพิมพ์ และเครื่องพิมพ์สำหรับธุรกิจสิ่งพิมพ์ระดับโลก ซึ่งเราได้พัฒนาและผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ ฟูจิ ซีร็อกซ์นำเสนอบริการคลาวด์และโซลูชั่นโมบายล์ พร้อมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมการสื่อสารที่ช่วยให้ลูกค้าของเราเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาและรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟูจิ ซีร็อกซ์ เป็นธุรกิจร่วมทุน 75-25 ระหว่างบริษัท ฟูจิฟิล์ม โฮลดิ้ง และบริษัท ซีร็อกซ์ และมีทีมขายตรงครอบคลุมการดำเนินงานในญี่ปุ่น และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงจีน บริษัทฯ มีรายได้ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ มีพนักงานราว 45,000 คนทั่วโลก และมีบริษัทในเครือ รวมทั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายกว่า 80 แห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ http://www.fujixerox.com/
ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C Series:
ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงรองรับการทำงานในยุคดิจิทัล
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น 14 รุ่น มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอันชาญฉลาด
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นดิจิทัลสี 14 รุ่น ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C ซีรีส์ รุ่นใหม่นี้จะมอบการรักษาความปลอดภัยที่เหนือกว่า พร้อมด้วยฟีเจอร์พื้นฐาน และดีไซน์ที่รองรับสไตล์การทำงานที่ยืดหยุ่นและหลากหลายภายในองค์กรธุรกิจ จึงช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเป็นรูปธรรม และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังอยู่ภายใต้แนวคิด Smart Work Gateway ของฟูจิ ซีร็อกซ์ อีกด้วย
สัมผัสประสบการณ์การทำงานที่ง่ายขึ้น
กลุ่มผลิตภัณฑ์ ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C ซีรีส์ ประกอบด้วยฟีเจอร์พื้นฐานที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมดีไซน์ที่ใช้งานง่าย
● หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ดีไซน์อินเทอร์เฟซใหม่ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสและการตอบสนองที่รวดเร็ว
● ระบบการแจ้งเตือนด้วยเสียงและไฟแสดงสถานะ ช่วยให้เครื่องสื่อสารกับผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
● ถาดกระดาษดีไซน์ใหม่ด้วยระบบซอฟต์ทัชจึงสามารถปิดได้อย่างนุ่มนวล ไร้เสียงรบกวน
การรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม 360°
ฟูจิ ซีร็อกซ์ นำหลักการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดมาใช้กับ ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C ซีรีส์ใหม่ เพื่อช่วยจัดการและป้องกันปัญหาข้อมูลความลับรั่วไหลตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการเข้ารหัสลับขั้นสูง รวมถึงการจัดการสิทธิ์ การเข้าถึงเอกสาร พร้อมด้วยระบบการสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ เครื่องมัลติฟังก์ชั่นแต่ละตัวจะมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ในกรณีที่ต้องทำงานบนเครือข่าย 2 เครื่อข่ายพร้อมกัน เพื่อให้เครื่องได้ถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และปลอดภัย
ระบบการดูแลที่คุณมั่นใจได้
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C ซีรีส์ใหม่ได้รวบรวมเอาบริการต่าง ๆ เพื่อช่วยแจ้งข้อมูลสำคัญให้คุณทราบก่อนใคร เช่น การแจ้งเตือนเพื่อป้องกันปัญหาล่วงหน้า ข้อมูลการใช้งานต่างๆ ของเครื่องมัลติฟังก์ชั่นที่คุณต้องการ เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดนี้จะช่วยลดระยะเวลาในการตัดสินใจและเพิ่มศักยภาพในการทำงานให้ธุรกิจของคุณ
การเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัด
พร้อมกับการเปิดตัว ApeosPort-VII C / DocuCentre-VII C ซีรีส์ใหม่ ฟูจิ ซีร็อกซ์ได้ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และบริการคลาวด์ เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น
● พิมพ์ได้ทุกที่ ที่ต้องการ
– บริการ Cloud On-Demand Print ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์จากเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นของฟูจิ ซีร็อกซ์ได้ทุกที่ทุกเวลา รองรับการเชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ได้สูงสุด 3,000 เครื่อง และเพิ่มจำนวนผู้ใช้ให้สามารถลงทะเบียนได้สูงสุดถึง 30,000 คน เป็นบริการที่ขยายความสามารถจากระดับ SME สู่ระดับองค์กรขนาดใหญ่
– เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Azure Active Directory เพื่อการยืนยันตัวบุคคลในการเข้าถึงข้อมูลบนบริการคลาวด์ เช่น OneDrive for Business และ SharePoint Online
● สร้างเวิร์กโฟลว์เอกสารดิจิทัลในองค์กรอย่างง่าย
– DocuWorks Tray 2 จัดส่งเอกสารดิจิทัลผ่านทางถาดเอกสาร (Document Tray) จึงเพิ่มความสะดวกในการออกแบบเวิร์กโฟลว์ธุรกิจและการใช้เอกสารดิจิทัล
– ฟูจิ ซีร็อกซ์ นำเสนอบริการจัดการเอกสารบนระบบคลาวด์ Working Folder ซึ่งความสามารถใหม่นี้ อนุญาตให้ผู้ใช้ที่เป็น Guest สามารถส่งเอกสารกลับมาหาเราได้ จึงเพิ่มความสะดวกในการแลกเปลี่ยนเอกสารกับคู่ค้าภายนอกองค์กร
● การเชื่อมต่อกับคลาวด์ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
– Cloud Service Hub เชื่อมต่อเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นกับบริการคลาวด์สตอเรจจากผู้ให้บริการหลายราย ผ่านอินเทอร์เฟซเดียวกันที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ สำหรับการแปลงภาพเป็นตัวอักษร หรือ Optical Character Recognition (OCR) ซึ่งระบบจะเริ่มเมื่อผู้ใช้สแกนและจัดเก็บเอกสารใหม่ ทั้งนี้ผู้ใช้สามารถสืบค้นเอกสารจากข้อความในไฟล์ที่จัดเก็บบนบริการคลาวด์สตอเรจได้สะดวกยิ่งขึ้น
– ApeosWare Management Suite 2 กับความสามารถใหม่ที่เชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ทำให้สามารถสแกนเอกสารไปจัดเก็บได้สะดวกยิ่งขึ้น
● การจัดการอุปกรณ์และค่าใช้จ่าย
– Device Log Service เป็นบริการคลาวด์ที่ช่วยรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น โดยแสดงรายงานสรุปได้ผ่านทางเว็บ รองรับการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจากเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่นสูงสุดถึง 1,500 เครื่อง และสามารถเชื่อมต่อกับระบบยืนยันตัวตนสำหรับผู้ใช้ LDAP/ActiveDirectory โดยอัตโนมัติ จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับองค์กรขนาดใหญ่