- Details
- Category: การตลาด
- Published: Sunday, 20 January 2019 17:47
- Hits: 1667
เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) เผย 'บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์' หรือ 'บีไอ' เอาท์ซอร์ซ ตอบโจทย์ธุรกิจ ลดต้นทุนและแก้ปัญหาขาดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล
บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เผยหนึ่งในบริการเอาท์ซอร์ซ (Outsource Service) ที่กำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจคือ "บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์" (Business Intelligence) หรือ "บีไอ" (BI) เป็นการรายงานข้อมูลสำคัญสำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจต่างๆ ในสถานการณ์การแข่งขันที่ตลาดและความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากหลายปัจจัย พบ 3 ปัญหาที่องค์กรต้องเผชิญ คือ ขาดความเข้าใจตลาด ไม่สามารถระบุผลลัพธ์ของโปรโมชั่นได้
และต้องใช้เงินลงทุนสูงเพื่อข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เนื่องจากปัญหาขาดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) ที่มีประสบการณ์ ชี้รายงานของ’บีไอ’ใช้เทคโนโลยีใหม่ รวบรวมข้อมูลมาจากหลายแหล่งโดยเฉพาะจากเสียงของลูกค้าโดยตรงในโลกออนไลน์ผ่านเครื่องมือ ‘โซเชียล ลิสเซินนิง’(Social Listening) ช่วยให้ทุกหน่วยงานในองค์กรธุรกิจสามารถนำ ‘บีไอ’ มาปรับใช้ ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนการผลิต การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด และการบริการหลังการขาย ตอบความต้องการของลูกค้า เพื่อประโยชน์การวางแผนกลยุทธ์ด้านต่างๆ
นายอิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาผู้ให้บริการการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจ ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากปัญหาขาดนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือ Data Scientist โดยเฉพาะผู้ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ รวมทั้งการลงทุนในเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ส่งผลให้ต้นทุนในการทำ ‘บิสิเนส อินเทลลิเจนซ์’ หรือ ‘บีไอ’ ภายในองค์กรมีต้นทุนที่สูงกว่าการจ้างบริษัทที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการทำ "บีไอ" ทำให้บริการเอาท์ซอร์ซ ด้าน "บีไอ" กำลังเป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจในขณะนี้ โดยสัดส่วนลูกค้าที่ขอใช้บริการ "บีไอ" เอาท์ซอร์ซ กับบริษัทฯ ในปี 2561 มีเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก
"เราพบว่า บริษัทส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ 3 เรื่องหลักๆ ในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้สถานการณ์การแข่งขันที่ตลาด และความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ได้แก่ ปัญหาขาดความเข้าใจตลาด ปัญหาในการกำหนดประสิทธิภาพของโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่าง ๆ และปัญหาในด้านเงินลงทุนสูง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลรวมถึงค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญในการดึงข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ มาใช้งาน การเอาท์ซอร์ซด้วยการจ้างบริษัทที่มี ประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในด้าน "บีไอ" จึงเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับองค์กรธุรกิจ คือช่วยลดต้นทุน ในขณะที่ได้รายงานข้อมูลจาก "บีไอ" โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์" นายฮาระกล่าว
'บีไอ'ช่วยตอบปัญหาทางธุรกิจได้ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูล ไม่ว่าจะมาจากโซเชียลมีเดียผ่านเครื่องมือ Social Listening รวมทั้งข้อมูลภายในของบริษัท และข้อมูลจากภายนอกอื่น ๆ ที่ต้องการเพิ่มเข้ามาอยู่ในรายงาน ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์มูลเหตุของผลลัพท์ การทำแบบสอบถามเพิ่มเติม การวิจัยตลาด
ตัวอย่างของรายงานจาก "บีไอ" ของเอบีม ซึ่งเป็นการนำเสนอข้อมูลในมุมมองทันสมัย จากเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ เช่น หัวข้อที่ผู้บริโภคกำลังพูดถึงมากที่สุดในโลกออนไลน์ หัวข้อที่ถูกกล่าวถึงในเชิงบวกหรือเชิงลบ วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อกระแสนั้น ๆ และการคาดการณ์แนวโน้มรวมทั้งสุขภาพของแบรนด์ในอนาคต เป็นต้น ทั้งนี้ ในรายงานยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละบริษัท และยังสามารถปรับปรุงรายงานได้เมื่อมีความจำเป็นตามสถานการณ์ทางธุรกิจ
จุดเด่นของ 'บีไอ' คือ ข้อมูลทันสมัย ใช้งานง่าย ผู้ใช้งานสามารถหาคำตอบทางธุรกิจได้หลายมุมมองภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถนำ "บีไอ" มาปรับใช้ในธุรกิจได้ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การวางแผนการผลิต การกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด และการบริการหลังการขาย ตอบความต้องการของลูกค้า เพื่อประโยชน์ในการวางแผนกลยุทธ์ด้านต่างๆ ทั้งยังช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อตอบพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และตอบรับกับการปรับตัวอย่างรวดเร็วของคู่แข่งในอุตสาหกรรมและคู่แข่งหน้าใหม่จากการดีสรัปท์ธุรกิจเดิม นายฮาระกล่าวทิ้งท้าย