- Details
- Category: การตลาด
- Published: Sunday, 18 May 2014 22:46
- Hits: 3799
ซาโนฟี่ เผยผลวิจัยวัคซีนลดผู้ป่วยไข้เลือดออก 56%
บ้านเมือง : นายโอลิวิเยร์ ชาร์เมยล์ ประธานบริษัทและประธานฝ่ายบริหารของซาโนฟี่ปาสเตอร์ กล่าวว่า ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ ซึ่งเป็นฝ่ายพัฒนาและผลิตวัคซีนของกลุ่มบริษัทซาโนฟี่ ได้ประกาศผลการศึกษาทดสอบประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกี่ที่กำลังศึกษาอยู่ ในระยะที่สาม หนึ่งในสองโครงการศึกษาขนาดใหญ่ ซึ่งผลการศึกษาปรากฏให้เห็นถึงการลดจำนวนผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี่ลงได้อย่างมีนัยสำคัญถึงร้อยละ 56 ผลของข้อมูลความปลอดภัยเบื้องต้นแสดงว่า วัคซีนมีความปลอดภัยดีซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดในอีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนี้ และจะเชิญบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาร่วมพิจารณาทบทวนผล ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลในการประชุมวิทยาศาสตร์นานาชาติที่กำลังจะมาถึง และจะตีพิมพ์รายงานในวารสารทางการแพทย์มาตรฐานสากลต่อไปในปีนี้
ไข้เลือดออกเดงกี่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตมนุษย์เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลกและกลายเป็นปัญหากดดันสำคัญทางสาธารณสุขใน ลำดับต้นๆ ในหลายประเทศในทวีปเอเชียและละตินอเมริกา ที่มีการระบาดอุบัติการณ์ของโรคไข้เลือดออกเดงกี่รายปีที่พบในกลุ่มควบคุม (กลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนไข้เลือดออก) สูงถึงร้อยละ 4.7 แสดงให้เห็นว่าทวีปเอเชียมีภาระโรคสูงมาก
วัตถุประสงค์หลักที่เป็นหัวใจของภารกิจของเราคือ การพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกเดงกี่ให้กลายเป็นโรคอันดับถัดไปในกลุ่มโรคที่ป้องกันได้โดยวัคซีน และเพื่อเป็นการสนับสนุนจุดมุ่งหมายขององค์การอนามัยโลก ที่จะลดอัตราการเสียชีวิตจากไข้เลือดออกเดงกี่ลงให้ได้ร้อยละ 50 และลดอัตราป่วยลงให้ได้ร้อยละ 25 ภายในปี 2563
ดร.มาเรีย โรซาริโอ คาเพดิง นักวิจัยหลักในการทดสอบทางคลินิกแห่งสถาบันวิจัยเวชศาสตร์เขตร้อน ประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกอย่างแท้จริงที่การทดสอบประสิทธิผลวัคซีนป้องกันไข้เดงกี่ ระยะที่สามประสบความสำเร็จลุล่วง แถลงผลการทดสอบทางคลินิกที่มีความสำคัญนี้ ประกอบกับข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ดีต่างๆ ของวัคซีนแล้วได้นำเอาความหวังที่เป็นจริงได้มาสู่มนุษย์จำนวนกว่า 100 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบในแต่ละปีจากไข้เลือดออกเดงกี่ ซึ่งเป็นโรคที่ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่จำเพาะโรค นอกจากผลของการศึกษาด้านประสิทธิผลที่เป็นโครงการวิจัยที่กว้างขวางและมีขนาดใหญ่ครั้งแรกนี้แล้ว ยังมีโครงการศึกษาวิจัยด้านประสิทธิผลที่มีขนาดใหญ่อีก เป็นโครงการที่สอง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการศึกษาในประเทศกลุ่มละตินอเมริกา ได้แก่ในประเทศบราซิล, โคลัมเบีย, ฮอนดูรัส, เม็กซิโก และเปอร์โตริโก ซึ่งมีอาสาสมัครเข้าร่วมในการศึกษามากกว่า 20,000 ราย คาดว่าจะสรุปรายงานการศึกษาออกมาเสริมรายงานแรกนี้ได้อีกในไตรมาสที่สามของปี 2557