- Details
- Category: การตลาด
- Published: Wednesday, 17 September 2014 00:29
- Hits: 3765
อินสโตร์มีเดีย ซบปัจจัยลบรุมเร้าหวังปีหน้าฟื้นตัว
ไทยโพสต์ : สุขุมวิท * บลู มีเดีย เผยปัจจัยลบส่งผลเจ้าของแบรนด์ลดค่าใช้จ่ายผ่านสื่ออินสโตร์มีเดีย คาดปีหน้าผู้ประกอบการแห่ใช้งานคึกคัก มั่นใจปีหน้ารายได้ทะลุ 300 ล้านบาท
นายบูรพาภรณ์ มุสิกสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า มูลค่าของตลาดรูปแบบสื่ออินสโตร์มีเดียปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ช่วงที่ผ่านมาด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจ ประกอบกับปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าของแบรนด์สินค้าได้ลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดลงรวมไปถึงสื่อมีเดียด้วย แต่เชื่อว่าในปีหน้า ผู้ประกอบการจะกลับมาใช้งบทางการตลาดกันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาพรวมต่างๆ เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และสื่อดิจิตอลก็จะเป็นทางเลือกสำคัญที่เจ้าของธุรกิจตัดสินใจใช้จ่าย
สำหรับ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจมากว่า 5 ปีแล้ว โดยตัวเลขการเติบโตของสื่อที่ ณ จุดขาย หรืออินสโตร์มีเดีย เริ่มมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะค่อนข้างมีบทบาทในเรื่องของยอดขายของแบรนด์สินค้า จากผลสำรวจพบว่ากว่า 75% ของผู้บริโภคที่พบเห็นสื่อโฆษณา ณ จุดขาย เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในทันที และในปีหน้ารูปแบบของสื่อดังกล่าวจะเติบโตได้ 10-20%
ขณะเดียวกัน บริษัทจะร่วมมือกับทาง แอลจี อิเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เพื่อพัฒนาสื่ออินสโตร์ให้ตอบโจทย์ตรงความต้องการแก่แบรนด์สินค้าให้ได้มากที่สุด
"ในตอนนี้ยังมีการเจรจาทางธุรกิจอีกหลายแบรนด์ที่มีความสนใจลงทุนกับสื่อดิจิตอลและรูปแบบนวัตกรรมที่บริษัทมีอยู่ โดยลูกค้าหลักในตอนนี้จะอยู่ในกลุ่มน้ำดื่ม และสินค้าเพื่อสุขภาพความงาม"นายบูรพาภรณ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายธุรกิจไป ยังต่างประเทศ โดยจะเริ่มดำเนินการในประเทศสิงคโปร์ และอินโดนีเซียก่อน คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงปลายปีนี้ และพร้อมจะขยายไปสู่ร้านค้าโมเดิร์นเทรดที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมดของเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้บริษัทจะมีรายได้ที่มาจากการดำเนินธุรกิจดิจิตอลมีเดียอยู่ที่ 120 ล้านบาท และในปีหน้าจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น หรือมีรายได้อยู่ที่ 230-300 ล้านบาท.
บลูมีเดียสร้างมิติใหม่สื่ออินสโตร์ มีเดีย จับมือ LG เปิดตัวตู้เย็นหน้าจอดิจิตอล
แนวหน้า : นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กระแสหรือเทรนด์ของสื่อดิจิตอลกำลังเป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิม และก้าวทันเทคโนโลยีมากขึ้น สื่อที่สามารถสื่อสารได้ 2 ทาง หรืออินเตอร์แรคทีฟ มีเดีย
(Interactive Media) สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทำให้สื่อดิจิตอลได้รับการยอมรับในวงการโษณาอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ส่งผลให้นักการตลาดพยายามคิดค้นหาวิธีการสื่อสารใหม่ๆ ที่น่าสนใจ สามารถสัมผัส ดึงดูด และใกล้ชิดผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสื่อ ณ จุดขาย หรืออินสโตร์ มีเดีย (In-store media) ที่เป็นสื่อซึ่งใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด ไม่เพียงแต่สร้างการจดจำในขั้นสุดท้าย แต่ยังกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้า ณ จุดขายได้ดีที่สุดอีกด้วย
โดยจากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่ากว่า 75% ของผู้บริโภคที่พบเห็นสื่อโฆษณาอินสโตร์ มีเดียที่มีความน่าสนใจนั้นจะทำให้กลุ่มผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าแบรนด์นั้นๆ ได้ทันที ดังนั้นสื่ออินสโตร์ มีเดียไม่เพียงแต่จะสามารถช่วยโน้มน้าวการตัดสินใจของลูกค้าได้ แต่ยังกระตุ้นการบริโภคได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
นายเกรียงไกรกล่าวว่า บริษัท บลู มีเดียคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในเครือบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟวิลเลจ จำกัด (มหาชน) จึงร่วมกับบริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “ตู้เย็นหน้าจอดิจิตอลโปร่งแสง” ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ (Digital Transparent Fridge) คือ เทคโนโลยีในการทำตู้แช่เครื่องดื่มปกติที่มีอยู่แบบเดิมๆ มาทำให้มีประโยชน์มากขึ้น ด้วยการนำจอทีวีใสมาติดตั้ง และใส่เนื้อหาหรือคอนเทนท์โฆษณาของลูกค้า เพื่อสร้างความน่าสนใจ โดยนำเสนอสื่อในระบบดิจิตอล และสนับสนุนการตัดสินใจเลือกบริโภคของลูกค้าได้มากขึ้น
นายบูรพาภรณ์ มุสิกสินธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลู มีเดียคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาสื่อดิจิตอลที่มีความหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานในด้านต่างๆ อาทิ อินเตอร์แอคทีฟ คิออส (Interactive Kiosk) ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ในระบบสัมผัส (Touch Screen) ซึ่งแอพพลิเคชั่นที่ใช้นั้น ได้ถูกออกแบบหรือดีไซน์ให้มีระบบการทำงานที่ใช้ได้ง่าย สัมพันธ์กับความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้อีกนวัตกรรมที่กำลังได้รับความสนใจจากหลายๆ แบรนด์ คือ ดิจิตอล ไพรซ์ แท็ก (Digital Price Tag) ที่สามารถติดตั้งไว้ที่ชั้นวางสินค้าต่างๆ ใช้แสดงราคา เสนอวีดีโอโฆษณา และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งนับเป็นอีกวิธีที่สามารถดึงดูดผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์ ณ จุดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอินเตอร์แอคทีฟ ฟลอล์ (Interactive Floor) คือการฉายภาพลงบนพื้นจากโปรเจกเตอร์ ซึ่งสามารถดึงดูดให้ผู้คนมีส่วนร่วมได้ ด้วยการทำให้ภาพเกิดความเคลื่อนไหวจากกิริยาท่าทางของคน และไฮไลท์ที่สุดของนวัตกรรมของบริษัท คือ ดิจิตอล ทรานส์พาเร้นท์ ฟริดจ์ ทั้งนี้นอกจากความร่วมมือกับแอลจีแล้ว ปัจจุบันบริษัทยังได้ขยายไปตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียนด้วย คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และพร้อมที่จะลุยขยายตลาดทั่วโลก