WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

อโรม่า กรุ๊ป รุกตลาดกาแฟอาเซียน

   บ้านเมือง : อโรม่า กรุ๊ป รุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เตรียมนำอโรม่าช็อปเครื่องชงกาแฟโทริโน่บุกตลาดอาเซียน เผยปีนี้มีคู่ค้ารายใหม่เพียบ ดันยอด Outlet ที่ใช้วัตถุดิบของบริษัทฯ พุ่งกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ

   นายกิจจา วงศ์วารี เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ กำลังเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจกาแฟและเครื่องดื่มไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ในเบื้องต้นจะทำการแต่งตั้งดีลเลอร์สำหรับการเปิดร้านอโรม่าช็อป (Aroma Shop) อย่างน้อยประเทศละ 1 ราย โดยเน้นเปิดที่หัวเมืองใหญ่ ได้แก่ ปีนัง ประเทศมาเลเซีย, โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม, พนมเปญ ประเทศกัมพูชา, ย่างกุ้ง ประเทศพม่า และเวียงจันทน์ ประเทศลาว เป็นต้น พร้อมนำจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟสดและแฟรนไชส์ของบริษัทฯ ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี เข้าไปเปิดตลาดในประเทศเพื่อนบ้านโดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี หลังเปิด AEC บริษัทฯ จะมีรายได้ต่อปีไม่น้อยกว่า 3,000-3,500 ล้านบาท (จากเดิมที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 1,500 ล้านบาท)

    "แนวโน้มธุรกิจกาแฟสดในประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนยังเติบโตได้ดี เพราะอัตราการดื่มกาแฟของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศในแถบอาเซียน อาทิ ประเทศกัมพูชา พม่า ลาว ยังขาดความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟสด โดยจะเห็นได้จากการมีแบรนด์ที่เป็นร้านกาแฟสดท้องถิ่น (Local Brand) ในประเทศน้อยมาก ดังนั้นเราจึงมองเห็นโอกาสในการนำอโรม่าช็อป ซึ่งเป็นศูนย์รวมที่จำหน่ายวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำธุรกิจร้านกาแฟสดแบบครบวงจร เข้าไปเปิดตลาดในประเทศดังกล่าว โดยจะนำเครื่องชงกาแฟ "โทริโน่ (Taurino)" ซึ่งเป็นแบรนด์ OEM ของอโรม่า กรุ๊ป ที่สั่งจ้างผลิตจากประเทศสเปนและอิตาลีเป็นหัวหอกในการทำตลาดเครื่องชงกาแฟในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะนำโมเดลธุรกิจ 94 Coffee (ไนน์ตี้-โฟร์คอฟฟี่) เข้าไปเจาะกลุ่มร้านกาแฟระดับพรีเมียม พร้อมนำกาแฟสดชาวดอยเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-ระดับล่างในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย"

   นายกิจจา กล่าวต่อว่า ในปี 2557 เรามีคู่ค้ารายใหม่หลายรายที่มาทดแทนคู่ค้ารายเดิมที่หมดสัญญาไปแล้ว โดยทางบริษัทฯ ได้สิทธิ์ในการเป็นพาร์ทเนอร์ในฟู้ดคอร์ตของเทสโก้ โลตัส และการบริหารเครื่องดื่มในเครื่องเจ็ทสเปรย์ของโลตัส เอ็กซ์เพรส ทั่วประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 600 สาขาและจะครบ 1,400 สาขาภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้สิทธิ์ในการซัพพลายวัตถุดิบให้แก่ร้านกาแฟสด 'อินทนิน'ในเบื้องต้น 300 สาขา และจะเพิ่มเป็น 500 สาขาภายใน 3 ปีรวมถึงคู่ค้ารายใหม่ของบริษัทฯ อย่างไมเนอร์ กรุ๊ป และยัมเรสเตอร์รองตส์ ทั้งนี้จากการมีคู่ค้ารายเก่าและรายใหม่ทำให้อโรม่า กรุ๊ป มี Outlet ที่ซัพพลายวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านกาแฟสดรวมแล้วกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสอดรับกับการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเมล็ดกาแฟคั่วบดจาก 2,000 พันตันต่อปี เป็น 4,000 ตันต่อปี โดยในขณะนี้อโรม่า กรุ๊ปถือเป็นผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟรายใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 ที่ใช้เมล็ดกาแฟมากที่สุดในประเทศ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทสำหรับการเปลี่ยนเครื่องจักรในไลน์การผลิตสินค้าประเภทกาแฟทั้งหมดมาเป็นการบรรจุกาแฟด้วยระบบไนโตรเจน ฟลัช (Nitrogen Flush) เพื่อเพิ่มอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้มีความสดใหม่ได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า

   "ภายในปีนี้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอโรม่า กรุ๊ป คือการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ทั้งหมด (รีแบรนดิ้ง) โดยเบื้องต้นทางบริษัทฯ ใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท ในการศึกษาวิเคราะห์และวางคอนเซ็ปต์ใหม่ให้กับแบรนด์ โดยเราจะวางตำแหน่งของอโรม่า กรุ๊ป ให้เป็นกูรูที่มีความเชี่ยวชาญด้านกาแฟที่ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ โดยคาดว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนโลโก้ของบริษัท โลโก้ของสินค้า และร้านค้าทั้งหมดได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้"

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!