WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขานรับตั้งศูนย์คุ้มครองแห่งชาติ

   บ้านเมือง : พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ผลจากการประชุมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภค โดยที่ประชุมในครั้งนั้นได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดตั้ง 'ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาติ' ขึ้น ซึ่งถือเป็นการปรับโครงสร้างการทำงานครั้งสำคัญของการคุ้มครอง ผู้บริโภคอีกวาระหนึ่ง เพราะเป็นการรวบรวมหน่วยงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภค 10 กระทรวงและ 20 กรมเข้ามารวมกันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

    "ล่าสุด ทาง ปคบ.ยังได้ร่วมสัญจรไปกับ สคบ.ที่ จ.ภูเก็ต เป็นการสัญจรในโซนภาคใต้กระแสตอบรับถือว่าดีมาก ส่วนการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคแห่งชาตินั้นเชื่อว่าจะเป็นการจัดตั้งที่ถาวร ถือเป็นวาระแห่งชาติ ขณะนี้รอเพียงแค่รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีจะเซ็นอนุมัติลงมาเท่านั้น เพราะมีโครงสร้างทุกอย่างอยู่แล้วสามารถทำงานต่อได้เลย เชื่อว่าในอนาคตหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหน่วยงานดังกล่าวจะยังคงอยู่เช่นเดิม เพียงแต่อาจจะต้องมีการปรับในเรื่องของกฎหมายให้เหมาะสมขึ้นเท่านั้น ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ"

    จากสถิติในการจับกุมผู้กระทำความผิดในช่วงที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2556 มีสถิติในการจับกุมเฉพาะในคดีอาชญากรรมเฉพาะทางของ บก.ปคบ. (สคบ.-สมอ.-อย.) จำนวนทั้งสิ้น 1,265 คดี คดีที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.อื่นๆ ได้แก่ พ.ร.บ.เงินกู้, พ.ร.บ.วัตถุอันตราย, พ.ร.บ.เชื้อเพลิง, พ.ร.บ.ยาเสพติด, พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล, พ.ร.บ.พันธุ์พืช พ.ศ.2518, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 1,699 คดี ขณะที่ ในส่วนของปีงบประมาณ พ.ศ.2557 นั้น จากสถิติตั้งแต่เดือนต.ค.56 ถึง ก.ค.57 ในส่วนที่เกี่ยวกับเฉพาะทางของ บก.ปคบ. นั้นมีสถิติการจับกุมทั้งสิ้น 1,385 คดี และในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ.อื่นจำนวน 130 คดี

   "หากศูนย์ดังกล่าวเกิดขึ้นผู้บริโภคจะมีความมั่นใจได้ว่าสามารถพึ่งพา สคบ.ได้ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ผู้บริโภคในต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงการร้องเรียนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันการร้องเรียนส่วนใหญ่มักอยู่แต่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนการร้องเรียนเพียงแค่ 8,000-10,000 เรื่อง แต่ถ้าศูนย์ดังกล่าวเกิดขึ้นจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าใจ เข้าถึงและพึ่ง สคบ.ได้ เชื่อว่าจะทำให้ยอดการร้องเรียนเพิ่มขึ้นถึงปีละ 100,000 เรื่องอย่างไม่มีปัญหา"

   นอกจากนี้สำหรับโครงการ "อาสาสมัครปกป้องคุ้มครอง ผู้บริโภค" หรือ อปคบ.ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนถึงขณะนี้มีการอบรมไปแล้วถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยจะมีการเปิดอบรมทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์แรกของเดือน อบรมรุ่นละ 300-400 คน ซึ่งจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้ความรู้เรื่องกฎหมายเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง ผู้บริโภค การสังเกตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางจำหน่ายในท้องตลาด การดำเนินงานของภาคธุรกิจ เช่น ธุรกิจขายตรงแบบเครือข่าย ฯลฯ โดยคาดหวังว่าจะมีเครือข่ายการคุ้มครองผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และหากโครงการประสบความสำเร็จก็จะขยายต่อไปยังภูมิภาคต่อไป

   "นอกจาก อปคบ.แล้ว ทาง บก.ปคบ.ยังได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการแก้ปัญหาด้านการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งมีมากในแต่ละวัน ทั้งการปรับปรุงเว็บไซต์ WWW.CPPD.go.th ปรับปรุงสายด่วน ปคบ.1135 และพัฒนาห้องสายด่วนรับเรื่องราวตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนโครงการ อปคบ.นั้นจะดำเนินการคล้ายกับโครงการกองปราบอาสา มีการเชิญชวนผู้ประกอบการมาร่วมอบรม สร้างเครือข่ายแสวงหาความร่วมมือในการทำงาน เราหวังว่า อย่างน้อยเขาเหล่านี้จะตอบคำถามประชาชนเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคได้ เราอบรมเข้ม 1 วัน มีวิทยากรทั้งจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและเอกชนมาให้ความรู้ โดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใด ผมตั้งใจไว้ว่าต่อไปหากได้งบประมาณมาก็จะพัฒนาให้ทันสมัยกว่านี้ อย่างตอนนี้ได้คุยกับทาง บริษัท กันตนากรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เพื่อให้จัดทำสปอตโฆษณา อาทิ ฟรีทีวี, ทีวีดาวเทียม, ช่องเคเบิลอีกกว่า 500 ช่อง และวิทยุในการทำประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชนมากอย่างทั่วถึง" พล.ต.ต.นรศักดิ์ กล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!