- Details
- Category: การตลาด
- Published: Thursday, 11 September 2014 11:38
- Hits: 2285
ไอ.ซี.ซี.-กิฟฟารีนมึนโตติดลบ ธรรมรัตน์ห่วงน้ำท่วมฉุดกำลังซื้อ
ไทยโพสต์ : ปทุมวัน *ไอ.ซี.ซี. ภาพรวม 8 เดือนยังอ่วมติดลบอยู่ 8-9% เตรียมลดล้างสต็อกยกค่ายโค้งสุดท้าย 60 แบรนด์ เผยหวั่นหากน้ำท่วมส่งผลกระทบกำลังซื้อรากหญ้า ฟาก'กิฟฟารีน'ลุ้นจบปีโตแบบไม่ติดลบ
นายธรรมรัตน์ โชควัฒ นา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่น แนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตที่ติดลบอยู่ที่ 8-9% นับว่าปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีการติดลบอยู่ราว 12-15% โดยเวลาที่เหลืออีกประมาณ 4 เดือนนับจากนี้ บริษัทจะทำการจัดโปรโมชั่นหรือการนำสินค้าของไอซีซีที่มีอยู่กว่า 60 แบรนด์มาลดล้างสต็อก ซึ่งการจัดโปรโมชั่นดังกล่าวได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 แล้ว คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และส่งผลให้อัตราการเติบโตของบริษัทเหลือการติดลบอยู่ในระดับ 2-3% หรือราว 13,000 ล้านบาทตลอดทั้งปี
"ภาพรวมการแข่งขันตลาดสินค้าแฟชั่น มองว่าจะไม่มีความรุนแรงมากไปกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงปลายปีจะมีการทำโปรโมชั่นกันเป็นประ จำอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กังวลจะเป็นเรื่องของกำลังซื้อผู้บริโภคในระดับรากหญ้า ที่น้อยลงจาก เงินนอกระบบที่หายไป ประกอบ กับเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งหากเกิดขึ้นก็จะทำให้กำลังซื้อของกลุ่มดังกล่าวลดลงไปอีก เพราะเท่าที่ประเมินช่วงที่ผ่านมาเศรษฐ กิจยังไม่ค่อยฟื้นดีนัก" นายธรรมรัตน์กล่าว
ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ชุดชั้นใน'วาโก้'นับจากนี้จะเน้นขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด ล่าสุดได้เตรียมงบ ประมาณไว้ราว 80 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงสาขาของ วาโก้ให้เป็นช็อปอินเตอร์แอคทีฟ เฟสแรกจำนวน 42 สาขา จากสาขาในปัจจุบันกว่า 100 สาขา คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปี 2558 ส่วนภาพรวมของวาโก้ในช่วงที่ผ่านมามีการติดลบมากกว่า 5% แต่นับตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.เป็นต้นมา ยอดขายเริ่มมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยตลอดทั้งปีคาดว่าวาโก้จะมียอดขายรวมทุกช่องทางประมาณ 3,300 ล้านบาท หรือเท่ากับปีที่ผ่านมา
นางนลินี ไพบูลย์ ประ ธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยทาง การเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ติดลบอยู่ที่ 9% แต่ในช่วงเดือน มิ.ย. ภาพรวมเริ่มปรับตัวเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น บริษัทจึงพยายามที่จะหาวิธีให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี และมีผลประกอบการที่ ไม่ติดลบ โดยในช่วงที่เหลืออีก 4 เดือนนับจากนี้ ยังเหลืองบ ทางการตลาดที่จะใช้เพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ อีกกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งก็จะเป็นส่วนในการช่วยผลักดันให้รายได้ตลอดทั้งปีอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ ช่วงปกติบริษัทจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ซึ่งหากไม่มีปัญหาทางการเมืองที่ไม่สงบเกิดขึ้น หรือประเทศ ไทยต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วม คาดว่าในปี 2558 จะดีขึ้นกว่าปีนี้ หรือคิดเป็นยอดขายอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้ใช้งบประมาณราว 50 ล้านบาท เพื่อเปิดบริการใหม่'กิฟฟารีน 1101 ส่งทุกที่ ฟรีทั่วไทย'ซึ่งนับว่าจะเป็นบริการใหม่ที่จะทำให้นักธุรกิจของบริษัทมีความสะดวกสบายในการสั่งสินค้าและขยายธุรกิจ.