- Details
- Category: การตลาด
- Published: Monday, 21 May 2018 10:32
- Hits: 1710
CPF ตอกย้ำผู้นำครัวโลกโชว์นวัตกรรมอาหารในงาน THAIFEX 2018 พร้อมเตรียมสร้างผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร หนุน Start Up เติบโต
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ยึดพื้นที่บูธใหญ่ที่สุดในงานมหกรรมอาหารเอเชีย - THAIFEX 2018 โชว์นวัตกรรมอาหาร “อกไก่ย่างชาโคล” และ SMART SOUP อาหารเพื่อผู้สูงวัย ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ พร้อมรับสมัครนักเรียนครั้งแรกสู่โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการ “คูลิเนอร์” เพื่อสร้างบุคลากรด้านอาหารสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่ม Start Up ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่(ร่วม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวถึงการร่วมงานมหกรรมอาหารเอเชีย THAIFEX - World of Food ASIA 2018 ที่กำลังจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2561 ว่าซีพีเอฟเข้าร่วมงานดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 โดยในปีนี้ได้เลือกพื้นที่ขนาด 378 ตารางเมตร ซึ่งเป็นบูธภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุด ณ อิมแพคเมืองทองธานี ฮอลล์ 7-8 เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารของประเทศไทยและของโลก ภายใต้แนวคิด “ทุกคำมีความหมาย”
ในปีนี้งานมหกรรมอาหารเอเชียได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ “อกไก่ย่างชาโคล” ของซีพีเอฟให้เป็นหนึ่งในนวัตกรรมอาหารแห่งปี ผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ผลิตจากสันในอกไก่ล้วนๆย่างด้วยถ่านชาโคลให้กลิ่นหอมนุ่มละมุน ส่งออกในลักษณะอาหารแช่แข็ง (Frozen) ไปจำหน่ายยังประเทศอังกฤษ ภายใต้แบรนด์ Taste Inc. ในรูปแบบอาหารแช่เย็น (Chilled) จัดเป็นกลุ่มอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ ให้โปรตีนสูงและไขมันต่ำ สะดวก รับประทานง่าย นอกจากนี้ยังบรรจุด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยที่สามารถช่วยยืดอายุอาหารจาก 1 สัปดาห์เป็น 3 สัปดาห์ได้อย่างน่าทึ่ง
นอกจากอกไก่ย่างชาโคลแล้วซีพีเอฟยังนำ นวัตกรรมอาหารผู้สูงอายุ ภายใต้แบรนด์ Smart Soup ไปจัดแสดงภายในงาน Smart Soup ผลิตจากวัตถุดิบพืชที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ฟักทอง มันม่วง ผักโขมและบล็อกโคลี่ นำมาบดเป็นซุปให้รสธรรมชาติที่เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงวัย ซึ่งจะดีต่อร่างกายที่มักมีปัญหาการเคี้ยว ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย จัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารปลอดเชื้อ (Aseptic Food) เพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุได้อย่างลงตัว ซึ่งจะวางจำหน่ายในประเทศไทยภายในปี 2561 นี้
ขณะเดียวกัน ภายในบูธยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพอีกหลาย SKU มาจัดแสดงด้วย อาทิ อาหารตระกูล Smart ประกอบด้วย Smart Meal : ข้าวผัดสาหร่ายคู่สหายมังสวิรัติ ข้าวอบฟักทองห้าเซียนมังสวิรัติ บะหมี่ผักโมโรเฮยะผัดพริกสด วุ้นเส้นอบเต้าหู้สามเซียนมังสวิรัติ และเครื่องดื่ม Smart Drink ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเสริมสุขภาพ กลุ่ม Anti-ageing กลุ่ม DETOX กลุ่ม Bright & Shine กลุ่ม Eye care กลุ่ม Block and Burn และกลุ่ม Good night ซึ่งล้วนเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากน้ำผลไม้แท้ 100% ไม่มีน้ำตาล แต่มีวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ เหมาะสมกับร่างกาย รวมถึงอาหารตระกูล CP Delight ที่ประกอบด้วย อกไก่นุ่ม สันในไก่นุ่มฮอตชิลลี่ อกไก่นุ่มกระเทียมพริกไทย และ สเต๊กแฮมรมควัน ซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพด้วย
“ในทุกๆปีซีพีเอฟจะได้รับความสนใจจากคู่ค้าในหลายประเทศทั่วโลกบินมาเยี่ยมชมงาน ขณะเดียวกันก็เกิดการเจรจาธุรกิจกับลูกค้ารายใหม่ๆจากทั่วโลกด้วย ในปีนี้ลูกค้าที่เข้ามาเจรจาธุรกิจต่างๆจะได้รับการต้อนรับด้วยเครื่องดื่มและของว่าง จากการบริการของโรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์ (Culineur, School of Culinary Arts and Entrepreneur¬ship) ซึ่งเป็นสถาบันด้านอาหารครบวงจรที่ถ่ายทอดความรู้ทั้งในเรื่องการทำอาหารและการทำธุรกิจอาหาร” นายสุขวัฒน์กล่าว
โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการ “คูลิเนอร์” (Culineur, School of Culinary Arts and Entrepreneurship) เป็นความร่วมมือระหว่าง ซีพีเอฟกับที่ปรึกษา Lausanne Hospitality Consulting: LHC จากสถาบันการโรงแรมที่ดีที่สุดของโลก (Ecole Hoteliere de Lausanne : EHL) ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ดินแดนขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินชั้นยอดของฝั่งตะวันตก ภายใต้การบริหารขององค์กรที่มุ่งสู่การเป็น“ครัวของโลก”อย่างซีพีเอฟ ที่นี่จะเป็นที่ๆสรรสร้างเชฟมากฝีมือควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจอาหารในทุกด้าน ทั้งการบริหารบุคลากร ต้นทุน/บัญชี การให้บริการ การตลาด หรือการประชาสัมพันธ์
ด้วยแนวคิดการสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมอาหาร ที่ควรต้องมีการรวบรวมองค์ความรู้ด้านอาหารให้ครบถ้วน ตั้งแต่การสรรหาวัตถุดิบชั้นดี วิธีการปรุง การถนอมอาหาร ไปจนถึงรสชาติความละเมียดละไมในทุกคำที่ผู้บริโภคจะได้สัมผัส ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจอาหาร ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยรักษาภูมิปัญญาด้านอาหารไว้ได้ ประเทศไทยจึงควรต้องมีสถาบันหรือโรงเรียนสอนทำอาหารที่ดีที่สุด เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ได้รวบรวมไว้ ไปยังเชฟและผู้ประกอบการธุรกิจอาหารให้สามารถก้าวสู่การเป็นเชฟระดับโลกหรือผู้ประกอบการมืออาชีพได้ในอนาคต
โรงเรียนคูลิเนอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนชั้น 5 ของห้างเอ็มโพเรียม ที่ผู้เรียนทุกคนจะได้เรียนรู้การลงมือปฏิบัติจริง ทั้งในด้านการประกอบอาหารและการบริหารจัดการร้านอาหารอย่างครบวงจร โดยผู้เรียนจะมีโอกาสเติบโตในเส้นทางธุรกิจด้านอาหารพร้อมเปิดโอกาสตนเองสู่ครัวของโลกใน 17 ประเทศที่ซีพีเอฟมีฐานการลงทุนอยู่
นับเป็นการสร้างความยั่งยืนให้แก่วงการอาหารด้วย “สถาบันอาหารที่ดีที่สุด” ซึ่งไม่เพียงจะผลิตเชฟมือดีประดับครัวโลก แต่ยังจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างผู้ประกอบธุรกิจอาหาร สนับสนุนคนรุ่นใหม่หรือ Start Up ที่ต้องการเติบโตในธุรกิจอาหาร โดยโรงเรียนคูลิเนอร์ฯจะเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาเป็นครั้งแรกภายในงาน THAIFEX2018]
Click Donate Support Web