- Details
- Category: Logistics
- Published: Monday, 09 February 2015 21:54
- Hits: 2087
ดีเอชแอล ลงนามเอ็มโอยู ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศให้กับนักธุรกิจและผู้ประกอบการไทย
ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนชั้นนำของโลก ล่าสุดได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มศักยภาพช่องการการขนส่งและวิธีการซื้อสินค้าออนไลน์ มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าสู่ตลาดการค้าระหว่างประเทศให้กับธุรกิจทุกขนาดของคนไทย
ภายใต้เงื่อนไขในข้อตกลงฉบับนี้ ดีเอชแอลจะรับผิดชอบในการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ เช่น
- สนับสนุนการให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฏระเบียบและขั้นตอนการส่งสินค้าทางอากาศแบบเร่งด่วน ข้อมูลที่ผู้ส่งออกควรทราบ รวมทั้งขั้นตอนและกฏระเบียบศุลการกรในประเทศกลุ่มเป้าหมายเช่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป ผ่านทางเว็บไซต์ http://shipping.dhl.co.th/goglobal
- ให้ส่วนลดร้อยละ 30 แก่สมาชิก Thaitrade.com สำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบเร่งด่วนระหว่างประเทศที่ทำการลงทะเบียนขนส่งสินค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์โดยเว็บไซต์ www.mydhl.dhl.com และชำระเงินค่าขนส่งผ่านบัตรเครดิต
- ให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้ระบบลงทะเบียนขนส่งสินค้าผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ประกอบการบน Thaitrade.com โดยเว็บไซต์ www.mydhl.dhl.com
คุณนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า "การบันทึกข้อตกลงร่วมกับดีเอชแอลในครั้งนี้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในการเพิ่มศักยภาพให้กับนักลงทุนชาวไทยและขยายการลงทุนไปสู่ตลาดที่มีศักยภาพของนานาชาติ โดยเฉพาะนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีในการเข้าสู่ตลาดสากล ทั้งนี้ยังช่วยพัฒนาเครื่องมือและวิธีการสำหรับช่องทางการค้าแบบอี-คอมเมิร์สเพื่อความร่วมมือกันในตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถช่วยสร้างผลกำไรได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อธุรกิจไทยเข้าสู่ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีความมั่นคงสูงหรือแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญกับผู้ซื้อทั่วโลก ตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยบริการที่สมบูรณ์แบบ รวดเร็วและเป็นมาตรฐานสากล”
จากผลการศึกษาครั้งล่าสุดเกี่ยวกับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่จัดทำโดยหน่วยงานที่วิเคราะห์เศรษฐกิจของนิตยสารชื่อดังระดับโลก The Economist หรืออีไอยูนั้น ทางดีเอชแอลค้นพบว่าการค้าระหว่างประเทศถือเป็นตัวแปรที่สำคัญของการอยู่รอดของธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ โดยชี้ให้เห็นในส่วนของโอกาสในการเจริญก้าวหน้าของธุรกิจประเภทนี้ในตลาดสากล และมีแนวโน้มเติบโตและสร้างกำไรได้มากขึ้นถึงร้อยละ 50 ภายใน 5 ปีนี้
การศึกษายังชี้ให้เห็นว่าธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนมาก มักประสบปัญหาในเวทีการค้าสากล เนื่องจากความไม่คุ้นชินต่อบรรยากาศการค้าในตลาดต่างประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่สำคัญ ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นด้วยว่า ความร่วมมือทางธุรกิจ เป็นปัจจัยที่มีค่ายิ่งสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี ที่กำลังมองหาโอกาสการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ และนักลงทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนใหญ่มักชอบที่จะทำการค้ากับผู้จัดจำหน่าย ตัวแทนจำหน่าย หรือองค์กรอื่น ๆ ที่มีเครือข่ายทางการค้าสากลที่เหนียวแน่นอยู่ก่อนแล้ว และมีความชำนาญในพื้นที่ที่ตนเองทำการค้าอยู่ เพราะจะเป็นการช่วยลดต้นทุนลงไปได้มาก
ยาสมิน อลาดาด คาน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ดีเอชแอล เอ็กซ์เพรส ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียกลาง กล่าวว่า "จากความร่วมมือนี้ ดีเอชแอลมีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จากการเป็นผู้ชำนาญการในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้กับธุรกิจเอสเอ็มอี เราเชื่อมั่นว่า ด้วยความรู้และประสิทธิภาพต่างๆที่เรามีนั้น จะสามารถมอบบริการและพร้อมให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ให้กับสมาชิกทุกท่านของ Thaitrade.com ในการคว้าโอกาสในตลาดการค้าระดับสากลได้สำเร็จ และสามารถเติบโตก้าวหน้าจนเป็นคู่แข่งทางการค้าที่สำคัญในเวทีการค้าระดับโลก"
คุณชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และภาคพื้นอินโดจีน กล่าวเสริมว่า "การขาดความเข้าใจด้านกฎระเบียบศุลกากรถือเป็นความท้าทายสำคัญสำหรับผู้ประกอบธุรกิจชาวไทยในการติดต่อค้าขายระดับสากล ดีเอชแอลมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความเข้าใจในกฎเกณฑ์ศุลกากรในประเทศต่างๆที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ทั้งยังมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าทางออนไลน์ที่ครบครัน เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสมาชิกของ thaitrade.com ในการอำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำและเสนอกลยุทธ์ต่างๆเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและคู่ค้าในตลาดการค้าระดับโลกให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของไทย"