- Details
- Category: Logistics
- Published: Friday, 29 March 2024 18:18
- Hits: 8040
กทท. เดินหน้าผลักดัน Digital Transformation มุ่งสู่ Smart Port for Sustainable Goals
สถาบันด้านการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ (Maritime Logistics Institute : MLI) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Transformation to Smart Port for Sustainable Goals” โดยได้รับเกียรติจากนายสรพันธ์ คุณากรวงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมรับฟังฯ และ นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. เป็นประธานเปิดสัมมนาฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ของ กทท. มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก พร้อมการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573 ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารที่ทำการ กทท.
สถาบัน MLI ได้เล็งเห็นความสำคัญของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งกระทรวงคมนาคมภายใต้การบริหารงานของนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายมุ่งเน้นให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ
ดำเนินการเพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วนมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ กทท. จึงจัดสัมมนาฯ เพื่อยกระดับมาตรฐานท่าเรืออัจฉริยะสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน “Digital Transformation to Smart Port for Sustainable Goals” โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Competency) มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและการปฏิบัติงานให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพเท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (Digital Disruption) รวมถึงพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูล (Big Data Analysis) เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการให้บริการได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าผู้ใช้บริการ
การสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรจากองค์กรชั้นนํา ได้แก่ MICROSOFT (THAILAND) CO., LTD., PTT EXPLORATION AND PRODUCTION PUBLIC COMPANY LIMITED, BEDROCK ANALYTICS CO., LTD., H3C TECHNOLOGIES (THAILAND) CO., LTD., ธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดีมรรค จำกัด
โดยหัวข้อการสัมมนาที่น่าสนใจ ได้แก่ “Digital Drive” การขับเคลื่อน Digital Transformation จากองค์กรไปสู่พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นภาพรวมในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานแบบเดิมสู่รูปแบบการทำงานแบบดิจิทัลที่ใช้ระบบควบคุมการปฏิบัติงาน รวมทั้งหัวข้อ “Digital Ecosystem” การเตรียมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการนำองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัล
โดยเป็นการบรรยายถึงขั้นตอนและวิธีการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมของที่ทำงานให้พร้อมรับการนำระบบDigital มาใช้ในองค์กร และ “Success Story” งานดิจิตอลฐานสนับสนุนองค์กรที่ประสบความสำเร็จ โดยบรรยายถึงความสำเร็จจากความร่วมมือในการใช้นวัตกรรม Digital Transformation นอกจากนี้ยังมีการเสวนาในหัวข้อ “Smart Port & Smart Work by Digital Tools” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการพัฒนาและความสำเร็จจากกระบวนการเปลี่ยนแปลง การทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล อันเป็นการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจด้านโลจิสติกส์อย่างยั่งยืน
“กทท. ได้ให้ความสำคัญกับ Digital Transformation เป็นอย่างมาก เนื่องจากระบบจะช่วยพัฒนาให้ กทท. สามารถดำเนินกิจการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมุ่งสู่การเป็น Smart Port ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย ลดต้นทุน
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย แต่คือการปฏิรูปการทำงานในองค์กรโดยให้เทคโนโลยีสามารถเข้ามาช่วยเหลือธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ”ผู้อำนวยการ กทท. กล่าว
“Digital transformation กระบวนการเปลี่ยนแปลงที่นำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยของโลก มีสิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนคือ Technology AI ซึ่งจะช่วยลดจำนวนคน ระยะเวลาการทำงาน และค่าใช้จ่าย ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 ได้มี AI ที่ชื่อ Generative AI ถูกพัฒนาขึ้น โดย Generative AI ถูกเรียกอีกชื่อว่านักภาษาศาสตร์ เนื่องจากสามารถรับรู้ในภาษาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
และมีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งรูปภาพ วิดีโอ เสียง การเขียนโค้ด Python โมเดลสามมิติ ฯลฯ ซึ่งช่วยในการทำงานและสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจต่างๆ รวมถึงธุรกิจท่าเรือได้เป็นอย่างดี” นางชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)
“ในปัจจุบันหลายองค์กรมีการผลักดันเรื่อง Digital transformation เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน โดยอาศัยการวิเคราะห์องค์กรตามหลัก Why What How Result เพื่อนำพาองค์กรไปสู่กระบวนการ Digital transformation ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการตอบรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ยังต้องคำนึงถึงเทรนด์โลกในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและกำหนดเป้าหมายได้อย่างไร้รอยต่อ อีกทั้งในการขับเคลื่อน Digital transformation นั้นยังต้องยึดหลัก Key takeaway อาทิ Leadership, Purpose และ Mindset เพื่อทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนและก้าวเข้าสู่การเป็น Smart Port transformation ได้อย่างยั่งยืน”นายฉัตรชัย คงเดชอุดมกุล ผู้จัดการอาวุโสฯ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)