- Details
- Category: SME
- Published: Friday, 06 September 2019 15:01
- Hits: 4484
บสย. ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดหนัก ค้ำประกันสินเชื่อ 1.5 แสนล้าน ลงนาม 18 ธนาคาร ดัน SMEs เข้าถึงแหล่งทุน
บสย. หนุนนโยบายรัฐ เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 วงเงิน 1.5 แสนลบ. พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง เพิ่มสภาพคล่อง เสริมโอกาส SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน ดันเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง มั่นใจ ยอดค้ำประกันสินเชื่อปีนี้โตตามเป้า 1 แสนล้านบาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อย ให้สามารถดำรงชีพได้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล คือ การสร้าง SMEs ให้เป็นกลไกหลักในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ ส่งเสริมให้ SMEs เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สนับสนุนให้ชุมชนฐานรากเข้มแข็ง
โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมและกระตุ้นให้มีการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 (PGS8) ที่ดำเนินการโดย บสย. จึงเป็นโครงการสำคัญ ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงการลงทุนในอนาคตด้วย
นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ในฐานะหน่วยงาน ภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีภารกิจหลักด้านการค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงแหล่งเงินทุน ล่าสุด บสย. ได้เปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 150,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 (PGS 8) ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อได้คล่องตัวขึ้น
สำหรับ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัวมากขึ้น ลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ ซึ่ง SMEs ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ และในวันนี้ บสย. ยังร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการเงินทั้ง 18 แห่ง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า บสย. เป็นกลไกของรัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้า ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 28 ปี บสย. ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไปแล้วกว่า 5 แสนราย คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 8 แสนล้านบาท สำหรับ PGS8 บสย. มั่นใจว่าจะช่วย SMEs ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากมีจุดเด่นหลายประการ อาทิ ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี, วงเงินค้ำประกันต่อรายที่สูงขึ้น ไม่เกิน 100 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน (เดิม 40 ล้านบาท)
ทั้งนี้ บสย. คาดว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 จะช่วย SMEs ให้ได้รับสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4.3 หมื่นราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 2.25 แสนล้านบาท และก่อเกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 6.87 แสนล้านบาท และขณะนี้ บสย. พร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และ PGS8 จะช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ดร.รักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 5.2 ล้านราย แต่ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้จริง ๆ เพียง 10% หรือ 1.2 ล้านรายเท่านั้น ที่เหลืออีกกว่า 4 ล้านราย หากเราสามารถช่วยให้ SMEs กลุ่มนี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ก็จะส่งผลดีและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ บสย. จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 ร่วมกับสถาบันการเงิน 18 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยสถาบันการเงินจะเป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ไม่มีหลักประกัน หรือหลักประกันไม่เพียงพอ และ บสย.จะให้การค้ำประกันสินเชื่อนั้น
ทั้งนี้ ผลจากการเปิดตัวโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่8 (PGS8) บสย. มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดค้ำประกันในปี 2562 ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1 แสนล้านบาท
Click Donate Support Web