- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Saturday, 11 November 2017 16:38
- Hits: 8504
สมอ.เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับการกำหนดให้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐานก่อนตราพระราชกฤษฎีกาต่อไป
นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ. เร่งเดินหน้าดำเนินการให้เสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 2721-2559 ภายหลังจาก กมอ. มีมติเห็นชอบให้มาตรฐานดังกล่าวเป็นมาตรฐานบังคับ โดยขณะนี้ สมอ. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาตราเป็นพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ต่อไป ซึ่งผู้ประสงค์จะแสดงความคิดเห็นสามารถเสนอข้อคิดเห็นพร้อมทั้งเหตุผล โดยระบุชื่อ ที่อยู่ ถึง สมอ. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศ (วันที่ 19 ตุลาคม 2560) โดยสามารถดูประกาศและรายละเอียดการกำหนดมาตรฐานดังกล่าวได้ที่ กองกฎหมาย สมอ. โทรศัพท์ 0 2202 3522 หรือ www.tisi.go.th ในหัวข้อประกาศมาตรฐานบังคับ
สมอ. กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน มาตรฐานเลขที่ มอก. 2721-2559 โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน UN-R117 ซึ่งมีขั้นตอนการทดสอบหลายรายการ เช่น ทดสอบความยืดหยุ่นในการรับน้ำหนัก ทดสอบสมรรถนะน้ำหนักต่อความเร็วของยางล้อ การสึกของดอกยาง ทดสอบความร้อนกับความดันยาง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาและยกระดับให้อุตสาหกรรมยางล้อในประเทศสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันเป็นการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศสู่อุตสาหกรรม 4.0 และยังส่งเสริมให้มีการใช้ยางซึ่งจะช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยางในทางอ้อม
เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ สมอ. เพื่อส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาผลิตภัณฑ์ในประเทศให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในตลาดโลก รวมทั้งปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่มีคุณภาพ โดยผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถรับทราบการกำหนดมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง และติดตามความเคลื่อนไหวด้านการมาตรฐานได้ที่ www.tisi.go.th หรือ www.facebook.com/tisiofficial