- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 02 August 2017 23:55
- Hits: 8994
บ.ลีดเวย์ฯ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนัก แบรนด์ซูมิโตโม ฉลองยอดขาย 1000 คัน สุดอลังการ คาดสิ้นปียอดขายพุ่ง 1500 ล้าน
บริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ จำกัด จัดงานฉลองยอดขายเครื่องจักรกลหนักรถขุดไฮโดรลิค ยี่ห้อ ซูมิโตโมทะลุ 1000 คันในระยะ 5 ปี พร้อมรุกตลาดรถขุดขนาดใหญ่ รุ่น SH 800 LDH -5 คาดสิ้นปีฟันยอดขายฉลุย 1500 ล้านบาท
นาย ฉกาจ แสนจัน กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีดเวย์ เฮฟวี่ แมชชีนเนอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักจากญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์ ซูมิโตโม หนึ่งเดียวในประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทฯ ในการทำตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศไทยว่า “ปัจจุบัน บริษัท ลีดเวย์ฯ ได้ดำเนินธุรกิจมานับเป็นปีที่ 5 แล้ว (ตั้งแต่ปี 2555-2560) ซึ่งผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มียอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งประสบความสำเร็จมียอดขายครบ 1000 คัน ในปีนี้ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก การทำตลาดเครื่องจักรกลหนักครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรถขุดขนาดเล็ก 8-20 ตัน รถขุดขนาดกลาง 20-40 ตัน และรถขุดขนาดใหญ่ 40-80 ตัน โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี สำหรับรถ 2 รุ่น ที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รถขุดและรถปูยาง (Paver) แยกตามน้ำหนักและกำลังการใช้งาน ทั้งนี้จุดแข็งของรถขุดไฮโดรลิคแบรนด์ซูมิโตโมที่ลีดเวย์ฯ นำเข้ามาจำหน่ายคือเทคโนโลยีระบบไฮโดรลิคที่มีสมรรถนะดี มีแรงขุด ขณะเดียวกันยังขึ้นชื่อว่าประหยัดน้ำมันมากที่สุดอีกด้วย”
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญนอกเหนือจากสินค้าที่ประหยัดน้ำมันดีที่สุดสามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าแล้ว บริษัทลีดเวย์ฯ ยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายตลาดใหม่เข้าภาครัฐ การให้บริการขายล็อตใหญ่ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการนำเสนอรูปแบบการเงินที่หลากหลายและรวดเร็วเพื่อความพึงพอใจของลูกค้าและที่สำคัญคือเรื่องบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย
ส่วนเป้าหมายยอดขายของบริษัท ลีดเวย์ฯ ตั้งเป้าในการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งในปี 2560 นี้ บริษัท ลีดเวย์ฯ และซูมิโตโมตั้งเป้ายอดขายรถขุดไว้ที่ 300 คัน รถปูยาง 15 คัน นอกจากนี้บริษัทยังได้นำรถขุดขนาดใหญ่อย่าง SH800 LHD เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ใช้งานในเหมืองแร่เป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายรวมของปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 350 คัน ส่งผลให้บริษัท ลีดเวย์ฯ สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 5 ของตลาดภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี
นอกจากนี้ เราก็ได้วางแนวนโยบายในการรุกตลาดซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองสำคัญ และกลุ่มลูกค้าบริษัทก่อสร้างรายใหญ่มากยิ่งขึ้นเนื่องจากในปัจจุบันเรามีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในตลาดมากยิ่งขึ้น เพราะรถขุด Sumitomo นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องการประหยัดน้ำมัน พละกำลังในการขุด และ ความประหยัดในการบำรุงรักษา อีกทั้งลีดเวย์ก็ได้มีการขยายศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้เรามีแผนที่จะขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 3 แห่งรวมเป็น 12 แห่งภายในสิ้นปีนี้เพื่อรองรับงานบริการหลังการขายสำหรับลูกค้าให้ดีที่สุด รวมถึงได้มีการนำรถขุดรุ่นขนาด 8 ตัน (SH80-6B) และ 13 ตัน (SH130-5) ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความกระทัดรัดเหมาะกับพื้นที่หน้างานที่จำกัดอีกทั้งยังประหยัดน้ำมันแบบสุด ๆ มาทำตลาดอย่างจริงจังเพื่อตอบโจทย์การทำงานในเขตเมือง พร้อมเสริมทัพความเป็น One Stop Service ด้วยธุรกิจเครื่องจักรมือสองคุณภาพสูงที่คัดสรรมาอย่างดีทั้งรถเก่านอกและในประเทศที่มีให้ลูกค้าเลือกทั้งในส่วนรถขุดและรถปูยาง เชื่อยอดรายได้ปีนี้ทะลุ 1500 ล้านอย่างแน่นอน
ด้านนาย โชจิ ยูชิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซูมิโตโม เอส.เอข.ไอ. คอนสตรัคชั่น แมชชีนเนอรี่ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดเครื่องจักรกลหนักในประเทศไทยเติบโตสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ในแถบเซ้าธ์อีส เอเชีย นั่นเป็นเพราะได้รับผลพวงจากเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีหลายเมกะโปรเจ็กต์ทีดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ การขยายถนนหนทาง อย่างเช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) และอีกหลายโครงการที่สำคัญๆ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้บริษัท ซูมิโตโมฯ ให้ความสำคัญในการตั้งเป้าหมายและทำตลาดร่วมกับ บริษัท ลีดเวย์ฯ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของซูมิโตโม เจ้าเดียวในประเทศ เราใส่ใจรายละเอียดลูกค้าคนสำคัญทุกคนในตลาดประเทศไทย สนับสนุนทุกกิจกรรมจนกระทั่งประสบความสำเร็จในระยะเวลาเพียง 5 ปี ด้วยยอดขาย 1000 คัน นั่นคือความภาคภูมิใจที่สินค้าของบริษัทซูมิโตโม เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของบริษัท ลีดเวย์ฯ ในวันนี้
ด้านแผนการลงทุนในอนาคต ลีดเวย์ฯ จะใช้งบประมาณ 80 ล้านบาทในการนำเข้ารถขุดพร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา คือ เชียงใหม่ นครราชสีมา และระยอง รวมการใช้สื่อในรูปแบบผสมผสาน เพื่อให้สอดรับการการตลาดในยุคดิจิตอลที่มีความรวดเร็ว ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลต่างๆ ในปีนี้เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและการดูและการให้บริการหลังการขายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มบุคลากรเพื่อขยายตลาดครอบคลุมการดูแลบริการหลังการขายมากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแต่ตลาดในประเทศเท่านั้นที่ลีดเวย์ฯ จะขยายการลงทุน บริษัทลีดเวย์ฯ ให้ความสำคัญกับตลาดในต่างประเทศเช่นเดียวกัน โดยจะเริ่มผลักดันตลาดที่พม่าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเราตั้งเป้ายอดขายไว้ 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2560 นี้ ส่วนปีหน้าตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,200 ล้านบาท เป็นต้น