- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 10 July 2017 09:15
- Hits: 2376
บ๊อชประเทศไทย แถลงผลประกอบการปี 2559 บ๊อช เติบโตต่อเนื่องในอัตราสองหลักในประเทศไทย
ไทยเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงสุดของบ๊อชในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 4 ปีซ้อน
- ยอดขายปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 มีมูลค่ารวม 11.9 พันล้านบาท (305 ล้านยูโร)
- บ๊อชเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในไทยกว่า 50 ล้านยูโร ในปี 2559 ตามการขยายตัวของธุรกิจด้านโซลูชั่นส์การเชื่อมต่อในไทย
- บ๊อชขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่ ‘อุตสาหกรรม 4.0’ สอดคล้องกับนโยบาย ‘ประเทศไทย 4.0’ ของรัฐบาล
บ๊อช ซึ่งเป็นผู้ผลิตด้านเทคโนโลยีและการบริการต่าง ๆ ชั้นนำของโลก ปิดงวดปีการเงิน 2559 ด้วยยอดขายรวมในประเทศไทย 11.9 พันล้านบาท (305 ล้านยูโร) คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า “นับเป็นปีที่สี่ติดต่อกันที่ประเทศไทยเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงสุดแห่งหนึ่งสำหรับบ๊อช ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเรามองเห็นแนวโน้มการเติบโตของบ๊อช ประเทศไทย ไปในทิศทางที่ดี เห็นได้จากการลงทุนของเราในธุรกิจการเชื่อมต่อ (Connectivity) โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งได้รับการผลักดันจากแผนกลยุทธ์ของรัฐบาลไทยภายใต้นโยบาย’ประเทศไทย 4.0’ มร. โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการของบ๊อชประเทศไทย กล่าว
“นโยบายของรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านโมเดลธุรกิจของบ๊อชให้เป็นไปอย่างราบรื่น จากการเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ IoT ชั้นนำ ซึ่งจะช่วยให้เราร่วมผลักดันประเทศไทยให้สามารถสร้างความแตกต่างในเวทีเศรษฐกิจระดับโลกที่มีการแข่งขันสูงขึ้น” มร. ฮง กล่าวเสริม
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 พนักงานที่ทำงานกับบ๊อช ประเทศไทย มีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 1,200 คน คิดเป็นอัตราการเพิ่มร้อยละ 8 ต่อปี และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในปี 2560 เนื่องมาจากการลงทุนในโรงงานผลิตระบบเชื้อเพลิงแห่งใหม่ในจ. ระยอง ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2560
เพิ่มการลงทุนในปี 2559
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทบ๊อชลงทุนในประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านยูโร เฉพาะในปี 2559 มีการลงทุนถึงกว่า 50 ล้านยูโร โดยบ๊อชตั้งเป้ารักษาความเป็นผู้นำในตลาดหัวฉีดเชื้อเพลิง และกำลังก่อสร้างโรงงานผลิตหัวฉีดเชื้อเพลิงในประเทศไทย เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ผลิตยานยนต์ โรงงานแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด จะใช้เทคโนโลยีหัวฉีดเอกสิทธิ์เฉพาะของบ๊อช โดยกระบวนการผลิตส่วนหนึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อ ตามแนวทาง ‘อุตสาหกรรม 4.0’ สำหรับการลงทุนรวมในปี 2559 นั้นยังครอบคลุมถึงการก่อสร้างโครงสร้างขั้นพื้นฐานสำหรับการวิจัยและพัฒนาภายในโรงงานผลิตหัวฉีดเชื้อเพลิง และการขยายสายการผลิตเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ในจังหวัดชลบุรีด้วย
พัฒนาการเชิงบวกครอบคลุมทุกธุรกิจ
ในปี 2559 กลุ่มธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนของบ๊อชเติบโตขึ้นจากอุตสาหกรรมชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ที่มีความต้องการและการผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มีแนวโน้มเติบโตเช่นเดียวกัน เป็นผลมาจากโครงการต่างๆ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ สำหรับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมีการเติบโตปานกลาง เป็นผลจากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ขยายตัวต่อเนื่องและจากช่องทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและการก่อสร้างนั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นในปี 2559 เป็นผลมาจากความต้องการในตลาดและอุตสาหกรรมการผลิตขยายตัว อีกทั้งการใช้จ่ายที่ต่อเนื่องของภาครัฐในด้านโครงสร้างพื้นฐาน
มุ่งมั่นยกระดับฝีมือและความก้าวหน้าทางวิชาชีพในหมู่เยาวชน
ในปี 2559 บ๊อชในประเทศไทยยังคงเข้าถึงชุมชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีกิจกรรมครอบคลุมด้านการศึกษาและสร้างโอกาสพัฒนาอาชีพแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาส เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนเหล่านั้นเติบโตขึ้นเป็นผู้ประกอบกิจการชั้นนำในอนาคต บ๊อชให้การสนับสนุนมูลนิธิทักษะเพื่อชีวิต (Skills for Life Foundation) และมูลนิธิ Hand to Hand มาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับทาง Primavera ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งโดยพนักงานของบ๊อชที่เกษียณอายุแล้ว เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ในประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ ให้สามารถเริ่มต้นชีวิตที่ดีขึ้นได้ การสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมของบ๊อช รวมถึงความร่วมมือกับมูลนิธิทักษะเพื่อชีวิตและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการพัฒนาแนวทางการยกระดับทักษะอาชีพด้วยการฝึกอบรม’train-the-trainer’ อย่างต่อเนื่องให้กับเด็กนักเรียนในมูลนิธิทักษะเพื่อชีวิต ซึ่งโครงการแรกที่ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยคือ การประดิษฐ์ของเล่นทำมือซึ่งได้ส่งมอบให้แก่เด็ก ๆ ในมูลนิธิ Hand to Hand เมื่อปีที่ผ่านมา
กลุ่มบริษัทบ๊อช: กลยุทธ์และภาพรวมธุรกิจปี 2560
สำหรับ ปี 2560 ด้วยภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ซบเซา กอปรกับความผันผวนทางการเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ กลุ่มบ๊อช จึงตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายที่ประมาณร้อยละ 3 - 5 แม้ว่าจะยังต้องลงทุนจำนวนมากเพื่อรองรับอนาคต ก็มองว่าน่าจะก่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีขึ้น
“ความสำเร็จทางธุรกิจในวันนี้ จะเป็นแรงส่งให้เราสร้างโลกของวันพรุ่งนี้ได้” ดร. โฟคมาร์ เดนเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหารของบ๊อช กล่าว “ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม สิ่งที่เรากำลังทำคือ การวางรูปแบบและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านนี้” ดร.เดนเนอร์ กล่าวเสริม ทั้งนี้ ตัวแปรที่สำคัญของการเปลี่ยนผ่านคือ การเปลี่ยนแปลงในโลกของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของ IoT ซึ่งภายในปีพ.ศ. 2563 ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ของบ๊อชทั้งหมดจะเน้นด้านการเชื่อมต่อเป็นหลัก และกุญแจสำคัญก็คือ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI – Artificial Intelligence ซึ่งภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า บ๊อชจะมีการลงทุนราว 300 ล้านยูโร เพื่อพัฒนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์ของบ๊อช
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บ๊อชทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.3 ในปี 2559 คิดเป็นยอดขายรวม 20.8 พันล้านยูโร (เติบโตกว่าร้อยละ 12 หลังปรับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) ปัจจุบัน บ๊อชมียอดขายในเอเชียแปซิฟิก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28 ของยอดขายทั้งหมด เทียบกับร้อยละ 27 ในปีก่อนหน้า