WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TISIพสฐ รงสฤษฎวฒกลสมอ. เปิดรับฟังความคิดเห็น หลังปรับปรุงมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อน

     สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กกล้าทรงแบนรีดร้อนสำหรับงานทั่วไปและงานดึงขึ้นรูป ก่อนตราพระราชกฤษฎีกาต่อไป  

       นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สมอ. มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน หรือมาตรฐานบังคับ จำนวน 105 มาตรฐาน เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มีผลทำให้ผู้ทำ ผู้นำเข้า รวมทั้งผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยต้องได้รับใบอนุญาตจาก สมอ. ก่อนทำและนำเข้า ขณะเดียวกัน ผู้จำหน่ายก็ต้องจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมาย มอก. เท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับบทลงโทษในกรณีทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

        มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เหล็กกล้าคาร์บอนทรงแบนรีดร้อน สำหรับงานทั่วไปและงานขึ้นรูป มอก. 528-2548 ปัจจุบันเป็นมาตรฐานบังคับ สมอ. ได้แก้ไขปรับปรุงมาตรฐานดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น และในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นตามกฎหมาย ปรากฏว่ามีผู้เสนอความเห็นให้เพิ่มเติมชนิด : เหล็กแผ่นม้วนหน้าแคบ และชั้นคุณภาพ HR5 ซึ่งเมื่อนำเสนอคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) พิจารณาแล้ว กมอ. มีมติเห็นชอบ และให้ สมอ. ไปดำเนินการรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการแก้ไขดังกล่าวมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นผู้ใดประสงค์จะแสดงความคิดเห็น สามารถดูรายละเอียดได้ที่ กองกฎหมาย สมอ. โทรศัพท์ 0 2202 3322 หรือ www.tisi.go.th” และให้แสดงความคิดเห็นพร้อมเหตุผลกลับมาที่ สมอ. ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2560 เลขาธิการ สมอ. กล่าว

 

สมอ. จัดการสัมมนาระดมความเห็น สร้างความเข้าใจผู้ประกอบการไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้กรอบ AHEEERR

      สมอ. จัดสัมมนาเตรียมความพร้อม หน่วยตรวจสอบ หน่วยรับรอง และผู้ประกอบการ ตามความตกลงว่าด้วยการปรับระบบด้านกฎระเบียบและการควบคุมบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (AHEEERR) เพื่อระดมความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการ

       นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล  เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่าประเทศไทยได้ร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยการปรับระบบด้านกฎระเบียบและการควบคุมบริภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน (Agreement on the ASEAN Harmonized Electrical and Electronic Equipment Regulatory Regime : AHEEERR) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2558 ซึ่งต้องปฏิบัติตามความตกลงดังกล่าว ในการยอมรับผลทดสอบและยอมรับใบรับรอง ที่ออกโดยหน่วยตรวจสอบและหน่วยรับรองที่ขึ้นทะเบียนกับอาเซียน ซึ่งขณะนี้ประเทศสมาชิกอาเซียนได้มีการปรับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกันแล้ว 119 มาตรฐาน อาทิ สายไฟฟ้า เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ พัดลมไฟฟ้า หลอดไฟ เตารีด โทรทัศน์ ตู้เย็น ในจำนวนนี้มีมาตรฐานบังคับของไทยจำนวน 30 มาตรฐาน โดยคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) สั่งการให้ สมอ. รับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการรับรู้และกำหนดแนวทางในการเข้าร่วมกิจกรรมตามพันธกรณีของอาเซียน

       เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านกฎระเบียบทางวิชาการ และมาตรฐานอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ประกอบการและภาคอุตสาหกรรมเพื่อเตรียมพร้อมผู้ประกอบการและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดจากความตกลงดังกล่าว จึงได้จัดสัมมนาระดมความคิดเห็น เรื่องผลกระทบต่อประเทศไทยภายใต้ความตกลงในกรอบ AHEEERR ซึ่งคาดว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาในวันนี้จะได้รับความรู้และความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ต่อพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามความตกลง AHEEERR และได้รับข้อคิดเห็นเพื่อเป็นแนวทางในการเข้าร่วมกิจกรรมตามพันธกรณีดังกล่าวต่อไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!