- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Tuesday, 23 May 2017 23:25
- Hits: 8513
กระทรวงวิทย์ฯ ได้ฤกษ์จุดพลุเปิดงาน 'Startup Thailand 2017 !!'เตรียมจัดอย่างกระหึ่มยิ่งใหญ่ขึ้นใน 5 จังหวัดทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 'อรรชกา'ลั่นเป็นหัวหอกผลักดันนำขับเคลื่อน Startup ไทยสู่สากล
กรุงเทพฯ / กระทรวงวิทย์ฯ ได้ฤกษ์จุดพลุเปิดงาน 'Startup Thailand 2017' ขึ้นอย่างกระหึ่มปีนี้แล้ว โดยวางเป้าจัดงานขึ้นตามหัวเมืองภาคต่างๆ 5 จังหวัดทั่วประเทศเริ่มที่ ชลบุรี เป็นจังหวัดแรกในวันที่ 26-27 พ.ค. ศกนี้และจะจัดหมุนเวียนไปตามลำดับทั้งที่ สงขลา ขอนแก่น เชียงใหม่ และปิดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ‘อรรชกา’ชี้เป็นการต่อยอดเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงและทันเหตุการณ์ มั่นใจยกระดับ Startup Thailand 2017 สู่การเป็น Platform ใหม่ในการเชื่อมโยงและส่งเสริม Startup ในภูมิภาค ภายใต้แนวคิด ‘Startup Thailand, Scale up Asia’ อีกทั้งเป็นการแสดงความพร้อมของประเทศไทยและแสดงให้เห็นถึงจุดยืนและความมุ่งมั่นของประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ส่งเสริม สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเพื่อการขยายธุรกิจ ตั้งเป้าปีนี้ขยายฐาน Startup ไทยสู่เอเชีย
ดร. อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องการจัดงาน ‘Startup Thailand 2017 Scale up Asia’ ในครั้งนี้ว่าการจัดงานดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับหน่วยงานพันธมิตร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ คณะกรรมการวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ เครือข่ายพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการนานาชาติ (Global Entrepreneurship Network หรือ GEN) หน่วยงานภาคเอกชน รวมถึงประชาคมสตาร์ทอัพ ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศและเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนา Startup เป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Warrior: NEW) โดยกำหนดให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่เปิดสำหรับการเติบโตของอาเซียน มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ สร้างการจ้างงานใหม่ กระจายรายได้สู่ภูมิภาค รวมทั้งการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้กล่าวต่อไปว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนจัดงาน Startup Thailand 2016 ขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ซึ่งการจัดงานครั้งนั้น เกิดการเป็นที่รู้จักในเชิงบวก จึงเกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้ประกอบการ Startup เป็นครั้งแรกโดยการนำเสนอมาตรการส่งเสริม Startup ในรูปแบบบูรณาการจากรัฐบาล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 36,000 คน ซึ่งถือเป็นการจัดงานทางเทคโนโลยีที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้มีการจัดงาน Startup Thailand & Digital Thailand 2016 ระดับภูมิภาคต่อเนื่องทีจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ภูมิภาคได้รับรู้และมีโอกาสในการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาการดังกล่าวตั้งแต่เริ่มต้น และเพื่อเป็นการสร้างความต่อเนื่องของกิจกรรมดังกล่าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงและทันเหตุการณ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงกำหนดจัดงาน Startup Thailand 2017 ขึ้น ระหว่างวันที่ 6 - 9 กรกฎาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความพร้อมของประเทศไทย ที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงความร่วมมือการพัฒนา Startup ในอาเซียน และแสดงความพร้อมของภูมิภาคอาเซียน ในการเป็นภูมิภาคชั้นนำในการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นฯ แสดงจุดยืนและความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมส่งเสริม สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายธุรกิจและสร้างตลาดใหม่ (Scalable) ให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด (High growth) โดยการระดมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (Tech Startup) ของประเทศให้มารวมตัวกันเพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีรายใหม่ (Tech Startup) ในประเทศไทย โดยเปิดโอกาสให้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและสร้างความตระหนักรับรู้ให้กับทุกคนในสังคม ในการเป็นผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ อาทิเช่น นักเรียน นักศึกษา นักเรียนอาชีวะ ช่วยผลักดันให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการขึ้นในประเทศไทยและส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
การจัดงาน Startup Thailand 2017 Scale up Asia ปีนี้มีกิจกรรมหลักภายในงาน เช่น การปาฐกถาโดยวิทยากรระดับนานาชาติ เสวนาจากผู้เชี่ยวชาญ นิทรรศการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ Startup พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเพื่อบริการข้อมูลความรู้จากหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย และหน่วยงานจากต่างประเทศ เวทีการแข่งขัน (Startup Pitching) และนิทรรศการ Startup Showcase จัดให้มีพื้นที่สำหรับ Startup โดยมีเป้าหมายในการรวบรวมกิจการ Startup ในประเทศไทยทั้งหมด และจัดแบ่งพื้นที่นิทรรศการออกตามประเภทของ Startup 9 กลุ่มอุตสาหกรรม คือด้านภาครัฐและการศึกษา (GovTech/EdTech) ด้านเกษตรและอาหาร (AgTech/FoodTech) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข (HealthTech) ด้านอุตสาหกรรม (IndustryTech) ด้านการบริการ (ServiceTech) ด้านการเงิน (FinTech) ด้านไลฟ์สไตล์ (LifeStyle) ด้านการท่องเที่ยว (TravelTech) และด้านอสังหาริมทรัพย์ (PropertyTech/UrbanTech)
โดยในปีนี้การจัดงาน Startup Thailand 2017 จะจัดขึ้นที่ภูมิภาคก่อน แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง ทั้งนี้การจัดงานจะเริ่มขึ้นเป็นอันดับแรกที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 26 - 27 พฤษภาคม 2560 ตามมาด้วยครั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา วันที่ 2 – 3 มิถุนายน 2560 ครั้งที่ 3 จังหวัดขอนแก่น 9 – 10 มิถุนายน 2560 และครั้งที่ 4 จังหวัดเชียงใหม่ 23 – 24 มิถุนายน 2560 และครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 6 – 9 กรกฎาคม 2560 ตามลำดับ
“กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหนึ่งในกระทรวงหลักที่มีภารกิจในการผลักดันระบบเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้มีการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาใช้เป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ ให้สอดคล้องกับ ‘ประเทศไทย 4.0’ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ไปสู่ ‘Innovation-Based Economy’ หรือ’เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม’ โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ต่อไป”ดร.อรรชกา กล่าวในตอนท้าย
ด้าน รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าช่วงปีที่ผ่านมามีการตื่นตัวต่อการส่งเสริมและผลักดัน Startup รวมทั้งระบบนิเวศน์ (ecosystem) ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความเชื่อว่า Startup จะเป็นกลไกหนึ่งที่สามารถทำให้ประเทศก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง หรือ middle income trap ไปได้ และมีบทพิสูจน์ที่สำคัญว่า Startup ในประเทศต่างๆ ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลต่อธุรกิจและผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง
“ในปีที่ผ่านมามี STARTUP มาร่วมออกงาน จำนวน 180 รายมีการจัดตั้งกิจการร่วมลงทุน หรือ Corporate Venture Capital เพื่อลงทุนและเร่งการเติบโตของธุรกิจ Startup โดยมีมูลค่ากองทุนสูงถึง 10,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2017 คาดว่าจะมี Startup มาร่วมออกงาน จำนวน 305 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบเท่าตัว และการจัดงาน Startup Thailand ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดจากปีที่แล้วภายใต้แนวคิด SCALE UP ASIA โดยเป็นการจุดประกายและสร้างความตื่นตัวในธุรกิจ STARTUP ของประเทศไทย โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ได้วางเป้าหมายที่จะขยายฐานของ STARTUP โดยเริ่มต้นในระดับภูมิภาคอาเซียน จนไปถึงระดับเอเชีย”รศ.นพ. สรนิต กล่าว
ส่วน ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ได้กล่าวเสริมถึงจุดเด่นของงาน STARTUP THAILAND 2017 ว่า เป็นงานที่ตอบโจทย์การพัฒนา Startup ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพัฒนาในด้านต่างๆ อาทิเช่น เรื่องการพัฒนา Ecosystem ทั้งระบบ ที่เอื้อต่อการพัฒนาธุรกิจ Startup โดยเฉพาะในส่วนของ Tech Startup ซึ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนที่ต้องการส่งเสริมให้คนไทย หันมาให้ความสนใจในด้านนี้มากขึ้น เรื่องการสร้าง Community ของ Startup เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ไม่รู้จบ รวมถึงการเอื้อประโยชน์ระหว่างกันในเชิงธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายกับกลุ่มนักลงทุน กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศ และเรื่องการพัฒนา Startup รายสาขา เนื่องจาก startup แต่ละสาขา ต้องอาศัยองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญในสาขาแตกต่างกันไป งาน Startup จึงได้ออกแบบมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูล และเป็นเวทีแบ่งปันประสบการณ์ Best Practice Sharing เรื่องการส่งเสริมศักยภาพ และความสามารถในการแข่งขันของ Startup ผ่านกิจกรรมภายในงาน เช่น กิจกรรม PITCHING ที่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของงาน
“การแข่งขัน Pitching นั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในการหาเงินทุนของ Startup ดังนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงได้จัดให้มีกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ตลอดจนการบ่มเพาะและฝึกหัดว่าที่ Startup ที่มีความสนใจร่วมกัน รวมถึงในงานจะมีการรวบรวมการให้บริการของภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนา startup เช่น การสนับสนุน startup ที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจ การให้คำปรึกษาเรื่องแหล่งทุน และการแนะนำเรื่องการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจในด้านต่างๆ จากเจ้าหน้าที่โดยตรงของกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง”ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ กล่าวในตอนท้าย