Tweet

0

Details

Category: อุตสาหกรรม

Published: Tuesday, 15 November 2016 10:39

Hits: 7651

ลาบิกซ์ บริษัทในเครือไทยออยล์จับมือ ยูนิลีเวอร์ ผลิตวัตถุดิบหลักของผงซักฟอก

      สิงคโปร์ :  เมื่อเร็วๆ นี้ นายอธิคม เติบศิริ (ที่ 3 จากซ้ายของแถวยืนแรก )ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นพยานในพิธีลงนามในสัญญาซื้อขายสาร LAB (Linear Alkyl Benzene) กับยูนิลีเวอร์ (Unilever Purchasing Agreement - UPA) โดย นายสุชาติ มัณยานนท์ ( นั่งริมซ้าย) กรรมการอำนวยการ บริษัท ลาบิกซ์ จำกัด (ในฐานะผู้ผลิต)  กับนายฮวน คาร์ลอส ปาราดา (นั่งกลาง) รองประธานฝ่ายจัดซื้อ กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีทั่วโลก บริษัท ยูนิลีเวอร์ เอเชีย ไพร์เวท จำกัด (ในฐานะผู้ซื้อ) และ นายทาคุ โมริโมโตะ (นั่งริมขวา) กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี จำกัด (ในฐานะผู้ขาย) โดยมีผู้บริหารจากทั้งสามบริษัทร่วมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามในสัญญาดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องไฮบิสคัส โรงแรม แชงกรีลา ประเทศสิงคโปร์

    นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “การลงนามในสัญญาซื้อขายกับยูนิลีเวอร์ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างยูนิลีเวอร์ ลาบิกซ์ และมิตซุย ความร่วมมือในครั้งนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานผงซักฟอกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่คาดว่าจะมีความต้องการใช้ LAB เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก”

     บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไทยออยล์ โดยไทยออยล์ถือหุ้นทั้งหมดนั้น เป็นผู้ถือหุ้นในลาบิกซ์75% และอีก 25% ถือหุ้นโดยมิตซุย โรงงานผลิตสาร LAB ของลาบิกซ์ เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนสิงหาคม 2556 และทำการผลิตเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา นับเป็นโรงงานผลิตสาร LAB รายแรกของประเทศไทย  และจัดเป็นโรงงานผลิตสาร LAB รายแรกและรายเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการเชื่อมโยงการผลิตอย่างครบวงจร มีกำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี

     โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ในบริเวณโรงกลั่นไทยออยล์ จ.ชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานของยูนิลีเวอร์ที่เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เพียง 105 กิโลเมตร และยังสามารถขนส่งสินค้าไปยังโรงงานของยูนิลีเวอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทางเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ทางทะเลได้สะดวกอีกด้วย ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่ง สร้างความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์สำหรับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งสาม

    เครือไทยออยล์ มีเป้าหมายที่จะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในระยะยาวกับยูนิลีเวอร์ซึ่งเป็นผู้ผลิตผงซักฟอกชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนั้น เครือข่ายการขายที่แข็งแกร่งของมิตซุย และการสนับสนุนจากลูกค้าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเติบโตของลาบิกซ์

    นายอธิคม กล่าวเสริมว่า “ หนึ่งในกลยุทธ์ของไทยออยล์คือ การมุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และลดความผันผวนของการดำเนินธุรกิจของเครือไทยออยล์ ”

สำหรับบรรณาธิการ

     เครือไทยออยล์ ประกอบด้วย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยพาราไซลีน จำกัด บริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท ไทยออยล์ เพาเวอร์ จำกัด บริษัท ไทยออยล์ โซลเว้นท์ จำกัด บริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด บริษัท ไทยออยล์ เอทานอล จำกัด บริษัท ไทยออยล์ เอนเนอร์ยี เซอร์วิส จำกัด บริษัท ลาบิกซ์ จำกัดและล่าสุด บริษัท ท็อป เอสพีพี จำกัด

   บมจ.ไทยออยล์ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 เป็นโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในเอเชียแปซิฟิค เครือไทยออยล์มุ่งเน้นการบริหารจัดการแบบบูรณาการเป็นกลุ่ม (Group Integration) เพื่อความเชื่อมโยงของหน่วยงานต่างๆ โดยการวางแผนการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ร่วมกัน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและประโยชน์สูงสุดระหว่างกลุ่ม โดยมีการเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานผลิตสารพาราไซลีน และโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน  ตลอดจนดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้า ธุรกิจขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี-ทางเรือ ธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางท่อ ธุรกิจด้านการบริหารจัดการเรือ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจสารทำละลาย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการความรู้ด้านเทคโนโลยีการกลั่นและปิโตรเคมีเพื่อรองรับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงาน

ไทยออยล์ได้รับการประกาศให้เป็นสมาชิกของ DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่

      เมื่อเดือนกันยายน 2559   Dow Jones Sustainability Indices 2016  หรือ DJSI  ซึ่งเป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ได้ประกาศให้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)   เป็นสมาชิกของ DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่  โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืนในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานของโลก' ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อีกด้วย  โดยกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานดังกล่าวประกอบด้วย อุตสาหกรรมถ่านหินและเชื้อเพลิงพลังงาน (Coal & Consumable Fuels) อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์และให้บริการสำรวจและผลิตพลังงาน (Energy Equipment & Services) อุตสาหกรรมให้บริการคลังและขนส่งน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Storage & Transportation) อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซขั้นต้น (Oil & Gas Upstream and Integrated) และ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันและก๊าซและการตลาด(Oil & Gas Refining & Marketing)

    เดือนมกราคม 2559  ไทยออยล์ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM ให้เป็นทีหนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก และได้รับการจัดอันดับให้เป็น Gold Class ติดต่อกันสามปีซ้อน