- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Saturday, 05 November 2016 17:56
- Hits: 5112
อุตฯ สนองนโยบายรัฐแก้วิกฤติข้าว
บ้านเมือง : นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการช่วยเหลือซื้อข้าวตรงจากชาวนาของภาคอุตสาหกรรม ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559/60 ว่า ตนได้สั่งการให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด กรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ไปประสานโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสำรวจความต้องการข้าวเพื่อการบริโภคของพนักงานในโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานที่มีคนงานจำนวนมากภายในนิคม/เขต/สวนอุตสาหกรรม ที่มีอยู่ประมาณ 4,200 โรง รวมถึงโรงงานขนาดใหญ่ที่อยู่นอกเขตนิคมฯ เพื่อช่วยเหลือชาวนาอีกทางหนึ่ง โดยประสานสั่งซื้อตรงผ่านสหกรณ์และชุมนุมเกษตรกรที่ขายข้าว ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยระบายข้าวแล้ว ยังตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และ กนอ. พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ด้วยการประสานงานนำข้าวสารจากกลุ่มเกษตรกรมาจำหน่ายถึงมือผู้ซื้อโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เพิ่มความสะดวกในการซื้อขายข้าวสาร พร้อมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรไทย โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้นิคมอุตสาหกรรม กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ดำเนินการใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.สำรวจและขอความร่วมมือไปยังโรงงานในนิคมฯ และเครือข่ายทางธุรกิจ ให้ช่วยรับซื้อข้าวสารจากเกษตรกร โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้ข้าวสารเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า
2.รณรงค์ให้บุคลากรของ กนอ. รวมถึงพนักงานของโรงงานต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรม และเครือข่ายทางธุรกิจ เป็นต้น ที่มีความต้องการบริโภคข้าวสาร ให้ร่วมใจกันช่วยอุดหนุนเกษตรกร โดยจะมีการรวบรวมปริมาณความต้องการซื้อข้าวสารจากทั้ง 2 ส่วนดังกล่าว เพื่อประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการรวบรวมข้าวสารจากกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร โรงสีข้าวชุมชน โรงสีข้าวสหกรณ์การเกษตร มาส่งมอบ/จำหน่ายถึงมือผู้ซื้อต่อไป คาดว่าจะสามารถช่วยรับซื้อข้าวสารจากเกษตรกรได้ในเบื้องต้น ประมาณ 5 พันตัน
"การแก้ไขปัญหาวิกฤติราคาข้าวตกต่ำ เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเร่งด่วน ซึ่ง กนอ.มีความเห็นใจและพร้อมที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเกษตรกรไทย ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับหยาดเหงื่อและน้ำพักน้ำแรงที่เสียไป โดยจะเร่งรัดให้เกิดความคืบหน้าอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรไทยโดยด่วน ซึ่งในเบื้องต้นจะเน้นแนวคิดการดำเนินงานในรูปแบบใกล้เคียงกับที่ กนอ. เคยให้ความช่วยเหลือ/สนับสนุนเกษตรกรไทย ที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นๆ ที่ผ่านมา ส่วนหลังจากนี้ น่าจะมีการหารือกันเพิ่มเติมในรายละเอียด และ/หรือมาตรการอื่นๆ ต่อไป"