- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 26 September 2016 23:57
- Hits: 11053
กลุ่มมิตรผล ประกาศแผนการลงทุนและความร่วมมือกับ Dynamic Food Ingredients(DFI) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาสารให้ความหวานจากสหรัฐอเมริกา ที่นำนวัตกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตที่ดึงคาร์บอนออกจากโมเลกุล มาแปรรูปน้ำตาลให้เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่
มีแคลอรี่ต่ำ ได้แก่ อีริทริทอล (Erythritol)และไซลีทอล(Xylitol) ซึ่งเป็นที่แพร่หลายที่สุดในโลก โดยในระยะเริ่มต้นจะมุ่งเน้นการผลิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน ควบคู่กับการร่วมกันวิจัยและพัฒนาที่ ‘ฟู๊ดอินโนโพลีส’ (Food Innopolis) หรือเมืองนวัตกรรมอาหารของไทย เน้นย้ำความมุ่งมั่นของมิตรผลในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยนวัตกรรมการเกษตร สอดคล้องกับนโยบาย ‘ประเทศไทย 4.0’ ของรัฐบาล
นายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจมาเป็นเวลากว่า 20 ปี การลงทุนและร่วมเป็นพันธมิตรกับ DFI ครั้งนี้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น USD 55 ล้าน นับเป็นก้าวสำคัญในการนำการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมมาเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจ ซึ่งสอดรับกับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้าระดับโลกของ DFI ในการผลิตสารให้ความหวานด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า เรามุ่งหวังที่จะนำองค์ความรู้จากการร่วมพัฒนาครั้งนี้มาต่อยอดสร้างโรงงานผลิตสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ฟู๊ดอินโนโพลีสในอนาคตอันใกล้ด้วย โดยการร่วมวิจัยครั้งนี้จะมุ่งเน้นการผลิตสารให้ความหวานจากแป้งหรือน้ำตาล ซึ่งได้แก่อีริทริทอล และไซลีทอล โดยใช้วัตถุดิบจากพืชเกษตรที่ปลูกในเมืองไทย เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสารให้ความหวานทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและผู้บริโภคไทยที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ”
ผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความใส่ใจกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติมากขึ้น อีกทั้งอัตราการขยายตัวของปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งโรคเบาหวานและโรคทางช่องปาก ก็ส่งผลให้หลายคนหันมาเลือกใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติที่มีแคลอรีต่ำ มีผลทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าอีริทริทอล และไซลีทอล คือทางเลือกของสารให้ความหวานจากธรรมชาติซึ่งมีรสชาติอย่างที่ผู้บริโภคต้องการโดยไม่ทิ้งกลิ่นใด ๆ ในปาก และไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพเหมือนสารให้ความหวานสังเคราะห์อื่น ๆ มีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายได้ทั่วโลกที่ใช้สารทั้งสองชนิดวางจำหน่ายอยู่หลายร้อยชนิดในปัจจุบัน การร่วมมือกันครั้งนี้จะส่งผลให้สารให้ความหวานทั้งสองชนิดนี้เป็นที่นิยมแพร่หลายยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนมีการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ มากขึ้นในอนาคต
มร. พอล แม็กนอตโต ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Dynamic Food Ingredients (DFI) USA กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการที่กลุ่มมิตรผลมาร่วมเป็นพันธมิตรและลงทุนกับเราครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายศักยภาพด้านนวัตกรรมการผลิตโดยใช้ไฟฟ้าซึ่งจดสิทธิบัตรของเราในการแปรรูปน้ำตาลให้เป็นผลิตภัณฑ์แคลอรีต่ำจากธรรมชาติโดยที่ยังคงรสชาติที่ดีไว้ ไม่ใช้สารให้ความหวานสังเคราะห์ (Artificial) สารแต่งสี สารแต่งกลิ่น สารเติมเต็ม หรือสารกันเสียใด ๆ เพื่อให้เราสามารถผลิตสารให้ความหวานจากธรรมชาติที่ได้รับการรับรองทางวิทยาสตร์แล้วว่าปลอดภัยต่อสุขภาพให้กับผู้บริโภคที่หันมาหาวิถีการกินที่มีคุณค่าต่อสุขภาพมากขึ้น โดยเลือกใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติแทนสารให้ความหวานสังเคราะห์ ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก”
ปัจจุบัน มีการใช้อีริทริทอล และไซลีทอล เป็นสารให้ความหวานแคลอรีต่ำกันแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งเป็นเครื่องปรุงรสบนโต๊ะอาหารในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติ การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างมิตรผลและ DFI ครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องรสชาติที่ดีควบคู่กับประโยชน์ต่อสุขภาพ ทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการสุขภาพที่ดี และผู้ที่มีความจำเป็นด้วยเหตุผลด้านปัญหาสุขภาพ เทคโนโลยีสิทธิบัตรของ DFI จะเป็นมิติใหม่ในการสร้างกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์ซึ่งผู้บริโภคให้การยอมรับอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว นอกจากนั้น การร่วมมือกันครั้งนี้ยังมีการพัฒนาวัตถุดิบซึ่งสามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ และสารเคมีที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้
ในปี 2558 ที่ผ่านมา อัตราการบริโภคอีริทริทอลทั่วโลกอยู่ที่ 65,000 ตัน โดยคาดว่ามีอัตราการเติบโต 7-8% ต่อปี ขณะที่การบริโภคไซลีทอลทั่วโลกอยู่ที่ 250,000 ตัน โดยคาดว่ามีอัตราการเติบโต 8-9% ต่อปี
“การลงทุนครั้งนี้จะส่งผลให้กลุ่มมิตรผลสามารถขยายประเภทผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมสารให้ความหวานจากธรรมชาติ ซึ่งทั้งปลอดภัยต่อสุขภาพและมีรสชาติดีกว่าสารให้ความหวานแคลอรีต่ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังเป็นการนำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ต่อยอดอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของไทยที่ฟู๊ดอินโนโพลีส นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพืชผลการเกษตรอันอุดมสมบูรณ์ของไทยในยุคที่เรากำลังเดินหน้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยโมเดลเศรษฐกิจที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่ม” นายกฤษฎากล่าว
Mitr Phol Group announces strategic investment in Dynamic Food Ingredients USA
The investment and planned collaboration are set to enhance technology-oriented industry - a key economic driver to support the
Thailand 4.0 policy
Mitr Phol Group announced a strategic investment and partnership with Dynamic Food Ingredients (DFI), a world leading company in in electrochemistry research and development, to scale up the production of Erythritol and Xylitol, two of the most widely used sugar alcohols in the global natural sweetener market. The initial investment will be focused on immediately scaling up production along with further collaborative technology development at Thailand Food Innopolis. The partnership is a part of Mitr Phol’s focus on technology-oriented agricultural innovation, and embracing the government’s Thailand 4.0 policy.
Mr. Krisda Monthienvichienchai, CEO and President of Mitr Phol Group, said that “we recognize the crucial role of innovation and technology which have been key pillars of our value added business approach for more than 20 years. The investment USD 55 million and partnership with DFI is another major step in reinforcing the adoption of innovation research and development as key economic driver, which is also in line with the government’s Thailand 4.0 policy. With DFI’s broad-based world-class technology and innovation in producing bio-based sweetening products, we are looking forward to furthering fruition from the know-how gained from this joint development by building natural sweetener production plants in Thailand Food Innopolis in the near future. The research will focus on producing natural and bio-based sweetener products like Erythritol and Xylitol using food crops grown in Thailand, and further make these products more viable as sweetener of choice for both local food industry as well as health-conscious consumers.
Consumers today are demanding natural products as well as low calorie natural sweetener in light of the rising rates of diabetes and dental issues across the world. There is a well-established body of science demonstrating that Erythritol and Xylitol are natural sweeteners of choice that have the taste consumers are looking for without aftertaste and other health concerns artificial sweeteners present today. Many large food and beverage producers have already launched hundreds of new products globally using these two sweeteners. The Mitr Phol - DFI partnership will be reaching out to consumers, food & beverage producers and others looking to expand the use of these products as well as new products in others areas.
According to Mr. Paul Magnotto, Founder and CEO of Dynamic Food Ingredients (DFI), “We are very excited about this partnership and Mitr Phol’s investment. It will allow us to significantly expand our innovative, patented, electrochemistry platform to transform common sugars into natural low calorie products found in nature, without compromising taste. Our ingredients contain no artificial sweeteners, colors, flavors, fillers, or preservatives. It will allow us to bring scientifically-validated, ‘better for you’ natural sweeteners to consumers around the world who are looking for ways to eat healthier capitalizing on the global trend away from artificial sweeteners to natural sweeteners.”
Erythritol and Xylitol are increasingly being used as low calorie sweeteners in food and beverages as well as being sold as a table top product in natural food stores. The Mitr Phol – DFI partnership will bring to market a range of products that meet growing consumer demands for good taste while offering health benefits for those that desire, or medically require them. DFI’s patented technologies break new ground to offer environmentally sustainable economic efficiencies in making products that already have wide consumer acceptance. In addition, this partnership will be developing ingredients that can reduce antibiotic use in animal feed, as well as renewable chemicals.
In 2015, the global Erythritol consumption accounted for 65,000 tons, with a forecast growth of 7-8% annually; while Xylitol 250,000 tons, with a forecast growth of 8-9% annually.
“With this partnership, we are able to expand our product portfolio to include natural sweetener products that offer distinct health benefits and superior taste comparing to existing low calorie sweeteners, and also bring world-class technologies to support food production in Thailand Food Innopolis. This marks a major advancement in optimizing the value of the country's abundant crops as we are moving up to the “Thailand 4.0” value-added economic model,” added Krisda.