- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 21 September 2016 08:32
- Hits: 3809
'สิงห์'จับมือ 3 หน่วยงานภาครัฐ ดันไทยสู่'เวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์'
แนวหน้า : นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ในฐานะ ที่ปรึกษาโครงการ "เวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์ ไทยแลนด์" (World Food Valley Thailand) เปิดเผยในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือพัฒนาโครงการเวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ ระหว่างสิงห์ คอร์เปอเรชั่น กับ 3 หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย สถาบันอาหาร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ว่า บริษัทในฐานะผู้ผลิตและทำตลาดอาหารและเครื่องดื่ม เตรียมพัฒนาโครงการเวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมอาหาร บนเนื้อที่รวมกว่า 2,000 ไร่ ที่จ.อ่างทอง เงินลงทุนกว่า 4,800 ล้านบาท
โดยโครงการนี้แบ่งเป็นพื้นที่พัฒนา 1,300 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภค/โครงสร้างพื้นฐาน 800 ไร่ ซึ่งขณะนี้มีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในนาม อ่างทอง พาวเวอร์ ในเครือของบริษัท เปิดดำเนินการแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 115 เมกะวัตต์ ได้รับอนุญาตขยายกำลังการผลิตได้ถึง 150 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการลงทุนจากทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมอาหารอ่างทอง ได้มีการ นำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตและแปรรูปอาหาร เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ่ม พัฒนาธุรกิจ ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ สร้างเครือข่ายธุรกิจ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ผลิต อาหารไทย ให้เป็นเมืองนวัตกรรมอาหารอนาคตครบวงจร แห่งแรกของไทยและเป็นศูนย์กลางในระดับภูมิภาคอาเซียน
"เบื้องต้นบริษัทมีกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่อยู่ในเครือ 8 บริษัท ที่พร้อมลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว และมีผู้ประกอบการสนใจสอบถามข้อมูลเช่าพื้นที่ลงทุนแล้ว กว่า 100 ราย โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่น คาดว่าจะพัฒนาพื้นที่แล้วเสร็จภายใน 3 ปี และเห็นผลการลงทุนชัดเจนภายใน 5 ปี โดยมั่นใจว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจที่เข้ามาลงทุน เพราะเชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า มีการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ ได้รับการอำนวยความสะดวกเรื่องการขอใบอนุญาตแบบเบ็ดเสร็จจากหน่วยงานรัฐ และช่วยลดต้นทุนการผลิต ดังนั้นจึงสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนได้แน่นอน" นายจุตินันท์ กล่าว
นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงตั้งเป้าขับเคลื่อนและพัฒนาโครงสร้างอุตสาหกรรมอาหารของไทยในโครงการเวิลด์ ฟู้ด วัลเลย์ ไทยแลนด์ คาดว่าจะทำให้เกิดมูลค่าการลงทุนรวมได้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ในอุตสาหกรรมอาหารได้อีก 1.5-2 หมื่นล้านบาท สามารถ ยกระดับสู่การเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอาหารติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกได้ภายใน 20 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่อันดับ 14 ซึ่งสร้างรายได้ให้ประเทศในปี 2558 เป็นมูลค่า 897,529 ล้านบาท และตั้งเป้าให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของอุตสาหกรรมอาหารขยายตัวเฉลี่ย 4% ส่งออกอาหารขยายตัว 8% ต่อปี ทั้งนี้กระทรวงตั้งเป้าลงทุน นิคมอุตสาหกรรมอาหารอีก 5 แห่ง ภายใน 5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด