WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

อุตฯเครื่องนุ่งห่มไทยท้อถูกก๊อบปี้ หมดกำลังใจสร้างแบรนด์

     แนวหน้า : อุตฯเครื่องนุ่งห่มไทยท้อถูกก๊อบปี้ หมดกำลังใจสร้างแบรนด์ กลุ่มรับจ้างผลิตยังพอไปได้

     นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ เลขาธิการสมาคมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของไทยได้ปรับตัวเพื่อรับมือการแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้จุดแข่งที่มีความพร้อมในทุกขั้นตอนการผลิต มีตลาดรองรับที่หลากหลายตั้งแต่ตลาดระดับสูงสุดไปจนถึงตลาดระดับล่าง และมีการผลิตผ้าผืนหลากหลายมากที่สุดในภูมิภาค รวมทั้งยังมีการพัฒนาบุคลากรและระบบการผลิตที่ก้าวหน้า ทำให้เริ่มมีแบรนด์ไทยออกไปปักธงในภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

    โดยในปัจจุบันนี้ได้มีแบรนด์ของไทยประมาณ 20-30 รายออกไปทำตลาดในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ซึ่งถือได้ว่ามีจำนวนแบรนด์ในระดับภูมิภาคเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน แต่ถ้ามองในความแข็งแกร่งของแบรนด์แล้ว ยังเป็นรองประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่แม้ว่าจะมีจำนวนแบรนด์น้อยกว่าไทย แต่ติดตลาดและมีสาขามากกว่า เนื่องจากมีการทำการตลาดมาก่อนไทยหลายปี ขณะที่ผู้ผลิตไทยพึ่งมีความตื่นตัวสร้างแบรนด์ออกไปต่างประเทศได้ไม่นาน แต่จากผลงานก็ถือว่าขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจว่าในอนาคตแบรนด์ไทยเหล่านี้จะมีความเข้มแข็งสู้กับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากภาพพจน์สินค้าไทยแข็งแกร่ง ผู้บริโภคในอาเซียน โดยเฉพาะพม่า สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ต่างให้ความเชื่อมั่นสินค้าจากไทย

“การสร้างแบรนด์ และการออกแบบ

     ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของไทย ยังต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่ ก็คือความหละหลวมของการบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้ถูกลอกเลียนแบบอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการต่างถอดใจเพราะไม่คุ้มกับการลงทุน นอกจากนี้ยังมีปัญหาช่องทางการตลาด เพราะว่าช่องทางการตลาดของไทยหลักๆ จะผ่านทางห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งห้างเหล่านี้ต่างก็มีเจ้าของแบรนด์เดิมครองตลาดอยู่ รายใหม่จะเข้าไปเช่าพื้นที่เปิดตลาดได้ยาก”นายยุทธนา กล่าว

    ส่วนผู้ผลิตที่เป็นการรับจ้างผลิตจากต่างประเทศ หรือโออีเอ็มนั้น ก็ได้ปรับตัวในเรื่องของความหลากหลายของการผลิต ทักษะ และเทคโนโลยี รวมทั้งออกไปตั้งฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดต้นทุนการผลิต และใช้โอกาสจากสิทธิพิเศษทางภาษีต่างๆ ที่ได้รับมากกว่าไทย จนทำให้โออีเอ็ม ของไทยพัฒนาไปสู่การเป็นผู้รับจ้างการผลิตที่มีฐานการลงทุนในต่างประเทศ โดยในขณะนี้มีบริษัทเครื่องนุ่งห่มของไทย 21 แห่ง ออกไปตั้งโรงงานในต่างประเทศ 29 โรง ทำให้ยังคงรักษาฐานการผลิตที่สำคัญอยู่ได้

    นายยุทธนา กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้คาดว่าการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยจะขยายตัวประมาณ 3-5% มีมูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุดยอดส่งออก 5 เดือนขยายตัวประมาณ 2.7% และหลังจากนี้ไปจะขยายตัวในแดนบวกทุกเดือน

    นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กสอ. ได้ส่งเสริมอุตฯแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วย 3 อุตฯหลัก คือ อุตฯสิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม, อุตฯเครื่องหนัง และรองเท้า, อุตฯอัญมณีและเครื่องประดับ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไทย เป็นศูนย์กลางอุตฯแฟชั่น ของอาเซียน ซึ่งได้พัฒนากระบวนการผลิต โดยให้บริการคำแนะนำ ในเชิงลึกกับผู้ประกอบการ รวมทั้งได้พัฒนาบุคลากรในอุตฯแฟชั่น เช่น พัฒนานักออกแบบ ทั้งนักศึกษาด้านแฟชั่น หรือนักออกแบบมืออาชีพ ให้มีความรู้ในเรื่องการบริหาร ซึ่งที่ผ่านมา กสอ. เคยส่งเสริมนักออกแบบไทย มีชื่อเสียงในเวทีโลกมาแล้ว

    นอกจากนี้ เตรียมสร้างแหล่งอุตฯแฟชั่น ที่เป็นที่รู้จักของคนไทยอยู่แล้ว ให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น เช่น โบ๊เบ๊, ประตูน้ำ, แพลทินัม, สยามสแควร์, จตุจักร ซึ่งกสอ. มีแนวคิดจะจัดเดินแฟชั่นโชว์ ในแหล่งสถานที่นั้นๆ เพื่อโชว์ศักยภาพสินค้าของผู้ประกอบการไทยให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น เพราะสถานที่แต่ละแห่ง จะมีผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่แล้ว รวมทั้งจะส่งเสริมผ้าไหมไทย ผ่านสินค้าต่างๆ นอกจากเสื้อผ้า เช่น นำมาประยุกต์ใช้กับเฟอร์นิเจอร์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!