- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Sunday, 28 February 2016 12:20
- Hits: 1943
'วัตคินสัน'เปิดโฉมโชว์รูมใหม่ นำเข้าเครื่องจักรรุ่นใหม่ดันตลาดไทย
บ้านเมือง : วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรหนัก ได้ฤกษ์เปิดโฉมโชว์รูมใหม่เพื่อเร่งขยายตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรหนัก พร้อมทั้งเปิดตัวเครื่องจักรสำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่รุ่นใหม่ดันการเติบโตและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศไทยอย่างครบวงจร
นายวัฒนา วีรศุภกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า วัตคินสัน เป็นหนึ่งบริษัทในเครือของ ที แอลเอส กรุ๊ป ที่ได้ดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรเพื่อการขนถ่ายลำเลียงในอุตสาหกรรมและเครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 13 ปี
สำหรับ 'วัตคินสัน'นั้น เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรหนักแบรนด์ "เคส คอนสตรัคชั่น" (CASE Construction) เป็นเครื่องจักรเพื่อการเกษตรและการก่อสร้างที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้รับความเชื่อถือและยอมรับในคุณภาพอย่างดีเยี่ยมเสมอมา ปัจจุบัน "วัตคินสัน" ได้นำเข้าเครื่องจักรหลากหลายรุ่นที่
ตอบโจทย์กับทุกสภาพการใช้งานและเหมาะสมกับการใช้งานสำหรับตลาดประเทศไทย อาทิ รถขุด รถตัก รถหน้าตัก-หลังขุด รถบดซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย และปีนี้ บริษัทฯ จึงได้นำเข้าเครื่องจักรหนักรุ่นใหม่และเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่ ณ จังหวัดระยอง เป็นการเร่งขยายตลาดแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้ "วัตคินสัน" มีศูนย์บริการสำหรับบริการหลังการขายทั้งหมด 6 แห่ง และมีเป้าหมายจะขยายศูนย์บริการและสาขาของทั้ง "วัตคินสัน" และผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมกันไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง ภายใน 3 ปี"
นายอติพงศ์ พงศ์หว่าน ที่ปรึกษาอาวุโส ด้านเครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ความต้องการเครื่องจักรหนักของตลาดอุตสาหกรรมในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจำนวนโครงการต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่กำลังผุดเพิ่มขึ้น ในปี 2015 ที่ผ่านมามูลค่าการตลาดของอุตสาหกรรมหนักอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท โตกว่าปี 2014 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท หรือกว่า 35% โดยเฉลี่ย ในปี 2015 ที่มีการเติบโตมากขึ้นส่วนหนึ่งมาจาก หลายๆ บริษัทในตลาดเครื่องจักรหนักทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกันหนักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการต่อสู้ด้านราคา ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีการซื้อเครื่องจักรไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับงานที่จะได้ตามสัญญาระดับหนึ่งส่งผลให้หลายๆ บริษัทสามารถจำหน่ายเครื่องจักรได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น 30-50% แต่ผลประกอบการปลายปีกลับกำไรน้อยลง เนื่องจากต้องแบกภาระอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนอย่างหนักในปี 2015 แทนลูกค้าที่ซื้อเป็นเงินบาทในช่วงแข่งขันกันดุเดือดปีที่ผ่านมา
สำหรับ ในปี 2016 ด้วยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐคาดว่าน่าจะรักษาระดับการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักไม่ต่ำกว่าปี 2015 หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หรืออาจสูงได้ถึงระดับมากกว่า 22,000 ล้านบาท และด้วยจุดแข็งของ "เคส คอนสตรัคชั่น" (CASE Construction) ที่มีสินค้าตอบโจทย์ในทุกสภาพการใช้งาน เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้มากกว่า 6 ประเภท ดังนั้นคาดว่า "วัตคินสัน" จะสามารถบรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่น้อยกว่า 3-5%
คุณดานิโล่ คาตาลุซซี่ ผู้จัดการด้านการตลาด โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น และผู้จัดการธุรกิจประเทศไทยลาว และกัมพูชา บริษัท CNHi กล่าวว่า "ตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ CNHi ได้เข้ามาผนึกกำลังร่วมธุรกิจในตลาดสายนี้กับวัตคินสัน จึงเป็นการเอื้ออำนวยซึ่งกันและกันสำหรับผลักดันตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่แบรนด์ "เคส คอนสตรัคชั่น" ขึ้นแท่นมาเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่ในประเทศไทย
เครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้าง'เคส คอนสตรัคชั่น'(CASE Construction) เป็นแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาเป็นเครื่องจักรเพื่อการเกษตรและการก่อสร้างที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก โดยล่าสุด CASE Construction ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกดีเด่นแห่งปี 2558 จากสมาคมการจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์มืออาชีพ ในงานสัมมนาประจำปี ครั้งที่ 33 ที่เมืองออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา