'จีดีพี'กลุ่มเอสเอ็มอีปี'58 โต 5.3% ปรับตัวสูงสุดทำสถิติรอบ 7 ปี'สาลินี'ยันปีนี้ขยายตัวได้อีก

     แนวหน้า : นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการ สำนักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ปี 2559 สสว.ประมาณ การผลิตภัณฑ์มวลรวม(จีดีพี) ของ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ภาพรวมยังคงขยายตัวอยู่ในที่สูงระดับ 5-5.5% สูงว่าจีดีพีของประเทศที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาด ปีนี้โต 2.8-3.8% และเป็นการเติบโตต่อเนื่อง จากปี 2558 ที่จีดีพี เอสเอ็มอีโต 5.3% คิดเป็นมูลค่า 5.56 ล้านล้านบาท

     ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่จีดีพีเอสเอ็มอี เติบโตติดต่อกัน 6 ไตรมาส ล่าสุดไตรมาส 4/2558 โตได้ 5.4% ทำให้สัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอีปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 41.1% ของจีดีพีประเทศ นับเป็นการปรับขึ้นสูงกว่าระดับ 40% ครั้งแรกและสูงสุดในรอบ 7 ปี โดย สสว. ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจีดีพีเอสเอ็มอีปีนี้อยู่ที่ 42% และขยับขึ้นไปอยู่ที่ 45% ให้ได้ภายในปี 2564

       "ต้องยอมรับ ว่าผลจากมาตรการส่งเสริม เอสเอ็มอี การกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และ ภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้จีดีพีเอสเอ็มอีสามารถเติบโตได้ติดต่อกัน 6 ไตรมาส โดยธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่าจีดีพีของประเทศ ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และธุรกิจขนส่งและ โลจิสติกส์" นางสาลินี กล่าว

      นางสาลินี กล่าวว่า ปีนี้ สสว. มีแผนดำเนินโครงการส่งเสริมเอสเอ็มอี 4 กลุ่มหลักให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ภายใต้งบประมาณ 1,977 ล้านบาท ได้แก่ โครงการปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถเอสเอ็มอีกลุ่มที่ต้องการปรับปรุงกิจการ(เทิร์น อะราวด์) งบประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเริ่มเปิดให้ผู้ประกอบการสมัครเข้าโครงการตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา เบื้องต้นมีผู้ประกอบการเริ่มเข้าหลักสูตรการปรับแผนธุรกิจแล้ว 450 ราย จากจำนวน ผู้สมัครทั้งสิ้น 4,000 ราย ตั้งเป้ามีผู้ประกอบการ เข้าโครงการรวม 10,000 กิจการภายในปีนี้ โดยในเดือนมี.ค.นี้ สสว. จะเริ่มเดินสายชักชวน ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายเข้าโครงการ โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ขอนแก่น พิษณุโลก เชียงใหม่ และสงขลา

      ส่วนโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ท อัพ) งบประมาณ 200 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้สนใจสมัครเข้าโครงการแล้ว 3,417 ราย โดยศูนย์บ่มเพาะจะเริ่มให้ความรู้ พื้นฐานในการประกอบธุรกิจตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้ ตั้งเป้าหมายมีผู้ประกอบการเข้าโครงการไม่ต่ำกว่า 10,000 รายภายในปีนี้ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถเริ่มต้นธุรกิจจนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลได้ ซึ่งศูนย์บ่มเพาะจะเปิดรับ ผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้าโครงการอีกครั้งในเดือนเม.ย. และพ.ค.2559