- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 01 February 2016 23:52
- Hits: 3515
สศอ.ลุ้นเมกะโปรเจกท์ อัดเม็ดเงินเข้าระบบ 2 แสนล้าน
แนวหน้า : นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวว่า สศอ.มองว่า อุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปี 2559 มีอาทิ ยานยนต์ เครื่องนุ่งห่มทั้งสิ่งทอ เส้นใย พลาสติก อาหาร อาทิ กุ้ง อ้อย/น้ำตาล แต่ยังห่วงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา ปาล์มน้ำมันที่มีปริมาณล้นตลาด หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันยังคงมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่อเนื่อง
ส่วนดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนธ.ค. 2558 พบว่ามีอัตรา การขยายตัว 1.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากภาวะการผลิตกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกที่ขยายตัวดีในตลาดเกิดใหม่ อย่างประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งอุตสาหกรรม คอนกรีตมีความต้องการวัสดุก่อสร้างต่อเนื่อง ทั้งโครงการก่อสร้างใหม่ งานซ่อมแซมของภาครัฐและโครงการ ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในประเทศจะขยายตัวมากขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนของภาครัฐทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ด้านคมนาคม อาทิ ถนน รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ และโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่คาดทั้งปีจะมีเงินลงทุนเข้าสู่ระบบ 2 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลจากการดำเนินงานต่างๆ เป็นรูปธรรมไม่เกินไตรมาส 2/2559
"ปีนี้ สศอ. คาดเอ็มพีไอปี 2559 น่าจะอยู่ที่ระดับ 2% จากปี 2558 อยู่ที่ 0.3% ส่วนอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ มวลรวม (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรมปีนี้ทั้งปีคาดอยู่ที่ 3-4% จากปี 2558 น่าจะ อยู่ที่ 0-1% ภายใต้สมมุติฐานที่ค่าเงินบาท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 37-38 บาท/เหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 40-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทั้งนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มองว่ายังอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นแต่ไม่น่าจะดีมาก เห็นได้จากแนวโน้มกำลังการผลิตที่ไม่น่าจะ เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับปัจจุบันมากนัก โดย เดือนธ.ค.กำลังการผลิตอยู่ที่ 62.87% ซึ่งถือว่าอยู่ในสภาวะที่รับได้เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน" นายศิริรุจ กล่าว
สำหรับ ภาวะการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ไม่รวมทองคำ หดตัว 6.2% โดยมีอุตสาหกรรมที่หดตัวหลายรายการ อาทิ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงเม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก และเคมีภัณฑ์ ทำให้ภาพรวมส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปี 2558 หดตัว 4.6% ขณะที่ การนำเข้าสินค้าทุนหดตัว 8% โดยการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปไม่รวมทองคำหดตัว 15.7% ซึ่งภาพรวม 2558 ทั้งปีการนำเข้าสินค้าทุนหดตัวไม่รวมทองคำหดตัว 7.6%
สศอ. คาด GDP ภาคอุตฯ ปีนี้โต 3-4%
บ้านเมือง : นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมในปี 59 คาดว่าจะเติบโตได้ 3-4% ฟื้นตัวจากปี 58 ที่คาดว่าจะเติบโตราว 0-1% ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในปีนี้ที่ ระดับ 37-38 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบที่ 40-45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งแม้การขยายตัวจะยังอยู่ในอัตราต่ำ แต่หากเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วจะพบว่าแนวโน้มของไทยปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางภาพรวมของภาคอุตสาหกรรม
"แนวโน้มที่ดีขึ้นไม่ใช่ผลจากฐานต่ำ แต่เป็นทิศทางของอุตสาหกรรมที่ดีขึ้นจริงๆ" นายศิริริจ กล่าว
สำหรับ อุตสาหกรรมที่เป็นตัวสนับสนุนการขยายตัวในปีนี้ คือ อุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมสิ่งทอ, อุตสาหกรรมพลาสติก, อุตสาหกรรมอาหาร เช่น กุ้ง ซึ่งคาดว่าปีนี้การส่งออกจะโตได้ 18% หลังจากได้แก้ไขปัญหาโรคกุ้งให้หมดไป และเป็นช่วงที่คู่แข่งประสบปัญหาการส่งออก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับจากมาตรการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ใน 10 คลัสเตอร์ ซึ่งจะทำให้มีการลงทุนเข้ามาถึง 2 แสนล้านบาท ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงยังเป็นเรื่องของการฟื้นตัวในแต่ละตลาดส่งออก
นายศิริรุจ กล่าวถึงสถานการณ์ของอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องการทุ่มตลาดสินค้าสินค้าเหล็กที่ทำให้ราคาลดลงมาอยู่ที่ 265 เหรียญ/ตัน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ปรับลดลงค่อนข้างมาก หลังจากการผลิตเหล็กของจีนล้นตลาด จึงได้ขอให้สถาบันเหล็กตรวจสอบข้อมูลนี้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อแจ้งเรื่องให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ ในปี 2558 ที่ผ่านมา มีสินค้าที่อุปโภคบริโภค ลดราคาลงแล้ว 21 สินค้า 274 รายการ โดยเฉลี่ยราคาที่ลด 2.08-39% เช่น ข้าวสารบรรจุถุง น้ำมันพืช ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำปลา ซอสปรุงรส ผงชูรส เหล็กเส้น สายไฟฟ้า กระเบื้องมุงหลังคา น้ำมันหล่อลื่น ยางรถยนต์ รวมถึงสินค้าปัจจัยทางเกษตร ทั้งปุ๋ยเคมีที่ใช้ในนาข้าวและพืชไร่ ได้ปรับลดราคาลงกระสอบละ 35-70 บาท ยาป้องกัน กำจัดศัตรูพืชลดลง 8-10%