- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Saturday, 05 July 2014 16:27
- Hits: 3270
PDG ขยายการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน หวังรายได้แตะ1,000 ล้านใน 2 ปี
แนวหน้า : “PDG”ขยายการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน หวังรายได้แตะ 1,000 ล้านใน 2 ปี
ธงชัย ตันสุทัตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอดดิจิ จำกัด (มหาชน) หรือ PDG ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวด Polyethylene Terephthalate (PET) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนในการลงทุนระยะยาว เพื่อรองรับในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน ผ่านการเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมขวดบรรจุภัณท์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เมียนมาร์ , กัมพูชา และลาว เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณในลงทุนอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านบาทต่อโรงงาน ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวบริษัทจะใช้ในการนำเข้าเครื่องจักร ,ซื้อที่ดิน และก่อสร้างโรงงาน
โดยบริษัทมีความมุ่งหวังที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ประกอบการในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดของกลุ่มประเทศดังกล่าวมีการเติบโตมากในด้านของประชากร ที่ส่วนใหญ่มีรายได้ดีขึ้น ประกอบกับรองรับคู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจที่ต้องการทำตลาดในต่างประเทศ
สำหรับ การลงทนในไทยนั้น บริษัทได้ขยายกำลังการผลิตขวด PET ในโรงงานที่จังหวัดนครปฐม จากเดิมมีกำลังการผลิตประมาณ 50 ล้านขวดต่อเดือน จะเพิ่มเป็นประมาณ 60 ล้านขวดต่อเดือน ซึ่งปัจจุบันโรงงานดังกล่าวมีพื้นที่ 17 ไร่ ซึ่งการขยายกำลังการผลิตดังกล่าวบริษัทใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท จะรองรับการขยายกลุ่มลูกค้าในประเทศที่ปัจจุบันมีจำนวน 100 ราย ได้ในระยะเวลา 2 ปี
“การขยายการลงทุนทั้งในต่างประเทศและในไทยนั้น เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปีนับจากนี้จะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่ผ่านมาที่บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนแรกปี 2557 บริษัทมีรายได้เข้ามาแล้วประมาณ 300 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”นายธงชัย กล่าว
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่าส่งผลกรทบต่อยอดคำสังซื้อหรือออเดอร์ของลูกค้าบางราย ซึ่งทำให้บริษัทมีออเดอร์ลดลงประมาณ 20% เนื่องจากผู้บริโภคปลายทางมีการใช้จ่ายน้อยลง ทำให้ผู้ขายต้องพยายามลดต้นทุน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง 2557 มองว่าน่าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง เนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายเริ่มออกสินค้าใหม่ สร้างตลาดใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะขยายการลงทุน ขณะที่ปัญหาแรงงานที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทย แต่ปัญหาในเรื่องของราคาพลังงาน จะส่งผลกระทบต่อบริษัทมากกว่า ซึ่งอาจจะต้องปรับราคาสินค้าตามราคาพลังงานที่ปรับขึ้น ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจ จึงไม่น่าจะมีปัญหา