- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Tuesday, 01 December 2015 22:18
- Hits: 2256
กสอ.สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดประสานสถาบันการเงินภูมิภาคหนุน SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน กระตุ้นภาคการผลิตปี 59
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งสั่งการศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ กระตุ้นภาคผลิตด้วยการยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้นโดยเร่งหารือกับสถาบันการเงินกว่า 20 แห่งเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการSMEsที่เข้าร่วมโครงการต่างๆ ของ กสอ. ทั้งนี้ ปัจจุบันมี SMEs กว่าร้อยละ 37.42 ไม่เคยได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ 2559 จะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนและขยายกิจการได้มากขึ้น
ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการ SMEsได้รับผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาภาระหนี้สินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการSMEsซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการธุรกิจไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต การบริหารจัดการ การขยายตลาด ทั้งนี้พบว่าSMEsส่วนใหญ่ร้อยละ 62.58 เคยได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ยังมีอีกร้อยละ 37.42 ไม่เคยได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน (ที่มา: สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)) เนื่องจากหลายๆสาเหตุอาทิ การขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ไม่มีแผนธุรกิจที่ดี และการขาดประวัติการชำระเงิน ตลอดจนอุปสรรคจากการเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ อย่างไรก็ตามปัญหาด้านเงินทุนเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยากพอสมควร อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาปัญหาระยะสั้นทางด้านการเงินหมุนเวียนให้กับSMEs ทาง กสอ. ได้เร่งให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่ง เร่งพิจารณาคำขอกู้เงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นที่ กสอ. มีอยู่ทั้งหมดกว่า 70 ล้านบาท โดยเร็ว ซึ่งขณะนี้ได้ช่วยเหลือเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นไปแล้ว 51 ราย จำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท และมีคำกู้ซึ่งรอรับการสนับสนุนอยู่อีกจำนวนกว่า 7 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พ.ย. 2558)
ดร.สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ. สั่งการให้ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 11 แห่งให้ทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการประสานงานกับสถาบันการเงินในพื้นที่ เพื่อให้ SMEs เข้าถึงซึ่งในขณะนี้ กสอ. ได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศรวมกว่า 20 แห่ง อาทิ ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน ธ.พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) ธ.เพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธ.เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM BANK) ธ.อาคารสงเคราะห์ ธ.อิสลามแห่งประเทศไทย ฯลฯ เพื่อหารือถึงแนวทางเพิ่มโอกาสการอนุมัติเงินทุนโดยกสอ. จะทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบการSMEsที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ของกสอ.ไปยังสถาบันการเงินโดยตรง ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่สถาบันการเงิน และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการมากขึ้น โดยในขณะนี้ดำเนินการไปแล้วในบางศูนย์ภาคฯ คือ ภาคที่ 1 ภาคที่ 6 และภาคที่ 7 นอกจากนี้ยัง มีแผนดำเนินการต่อไปให้ครบทุกศูนย์ภาคฯ
โดยในปี 2558 ที่ผ่านมากสอ. ได้ส่งต่อ SMEs ให้กับ SMEBANK กว่า 600 กิจการรวมเป็นวงเงิน 2,586.60 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว จำนวน 349 กิจการเป็นวงเงินทั้งสิ้น1,249 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มอีกจำนวน 165 กิจการซึ่งในปีงบประมาณ 2559 มี SMEsที่จะเข้าร่วมกิจกรรม/โครงการกับกสอ.ประมาณ 10,000 กิจการ ซึ่ง กสอ. ได้มีการหารือร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆเพื่อส่งต่อข้อมูลผู้รับบริการระหว่างกัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายกิจการและสร้างโอกาสในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจรองรับการแข่งขันระดับสากลต่อไป โดย กสอ.จะมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการเงินในเดือนมกราคมนี้
สำหรับ ผู้ประกอบการที่สนใจโครงการต่างๆของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-18 หรือเข้าไปที่www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr