- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Tuesday, 29 September 2015 07:20
- Hits: 5453
มิตรผล เล็งยื่นสอน.ตั้งรง.น้ำตาลแห่งใหม่ หวังรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 20%
แนวหน้า : นายคนอง ศักดิ์เพ็ชร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มโรงงานกลุ่มมิตรผล เปิดเผยถึงแผนการขยายกำลังการผลิตน้ำตาลของกลุ่มมิตรผล ว่า ขณะนี้มิตรผลอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารในรายละเอียดของรายชื่อเกษตรกรไร่อ้อยที่อยู่ในเครือข่าย หลักฐานด้านที่ดิน และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เพื่อขอตั้งโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ภายในข้อกำหนดระยะห่างโรงงานไม่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตร ภายในเดือนตุลาคม 2558 นี้ โดยงบประมาณในการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลในปัจจุบันขั้นต่ำจะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาทต่อโรง มีกำลังการหีบอ้อยไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นตันต่อวัน ซึ่งในต้นทุนนี้รวมไปถึงการสร้างโรงไฟฟ้าจากชานอ้อน กำลังการผลิต 50-60 เมกะวัตต์
“มิตรผลมีเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดน้ำตาลภายในประเทศไว้ที่ 20% โดยในขณะนี้มีอ้อยเข้าสู่โรงงานน้ำตาลประมาณ 106 ล้านตัน ในจำนวนนี้เป็นอ้อยที่เข้าโรงน้ำตาลของมิตรผลประมาณ 20 ล้านตัน และผลิตน้ำตาลได้ 2.2 ล้านตัน ซึ่งในอนาคตตามนโยบายของรัฐบาลที่จะส่งเสริมการปลูกอ้อยทดแทนในพื้นที่นาข้าวและพื้นที่อื่นๆ ก็จะทำให้ปริมาณอ้อยเพิ่มขึ้นถึง 180-200 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 80-100 ล้านตัน มีปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นประมาณ8-10 ล้านตัน ซึ่งมิตรผลก็จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้ได้ 20% หรือจะต้องขยายโรงงานผลิตน้ำตาลเพิ่ม 1.6-2 ล้านตัน” นายคนอง กล่าว
นอกจากนี้ มิตรผลยังได้ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา โดยในแต่ละปีได้จัดสรรงบประมาณมาพัฒนาในส่วนนี้300-400 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปปรับปรุงผลผลิต พัฒนาไร่อ้อย ให้มีผลผลิตที่สูงขึ้น และมีต้นทุนลดลง เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้น รวมทั้งยังวิจัยและพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การนำน้ำตาลหรือน้ำอ้อยไปผลิตเป็นวัตถุดิบไบโอเคมิคัล ไบโอพลาสติก เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจไปสู่สินค้าชั้นสูง ที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ราคาน้ำมันได้ลดลงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตจากน้ำตาลไม่สามารถสู้กับวัตถุดิบปิโตรเลียมได้ ทำให้การผลิตสินค้าในกลุ่มนี้ต้องชะลอออกไป แต่ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นไปถึงระดับ 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก และไบโอเคมิคัล จึงจะสามารถแข่งขันกับวัตถุดิบปิโตรเลียมได้
ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศชั้นนำระดับโลก ที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมน้ำตาลและชีวพลังงานที่สูงมาก ความสามารถในการแข่งขันของไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยมิตรผลเป็นผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 4ของโลก และเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวลและเอทานอลอันดับ 1ในภูมิภาคอาเซียน จากปัจจัยของไทยที่มีวัตถุดิบพืชพลังงานที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลังหรือปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชพลังงานที่สามารถปลูกได้เองบนผืนแผ่นดินและไม่มีวันหมด