- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 31 August 2015 23:14
- Hits: 6061
PTTGC นำเอกชนแปรรูปพลาสติกลงพื้นที่เขตศก.พิเศษตากผลักดันคลัสเตอร์
บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) นำผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปพลาสติกร่วม 40 บริษัท ลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก(Tak Special Economic Zone :Tak SEZ)ในช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจศักยภาพของพื้นที่จริง ตามโครงการสนับสนุนการลงทุน และจัดตั้งคลัสเตอร์ของกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อขยายขีดความสามารถด้านการค้า ให้กับอุตสาหกรรมพลาสติกของประเทศไทย พร้อมทั้งเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเมียวดี สาธารณรัฐเมียนมาร์
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTTGC กล่าวว่า การนำผู้ประกอบการแปรรูปพลาสติก จำนวน 40 บริษัท ลงพื้นที่สำรวจเขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านการลงทุน มีความพร้อมทางด้านแรงงาน สามารถจัดตั้งเป็นคลัสเตอร์ธุรกิจพลาสติก เพิ่มมูลค่าการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจไปยังเมืองย่างกุ้ง และเมืองเมาะละแหม่ง ตลาดใหญ่ของเมียนมาร์
โดยเมียนมาร์นั้นมีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประแทศ(GDP) เฉลี่ย 8% ต่อปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยเศรษฐกิจโลก มูลค่าการนำเข้าพลาสติกของเมียนมาร์ที่มีการบันทึกไว้ ประมาณ 175,000 ตัน/ปี แต่เชื่อว่ามูลค่าจริงอาจจะสูงกว่านั้น 2-3 เท่า ซึ่งอุตสาหกรรมพลาสติกจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย จากการสำรวจพื้นที่ ผู้ประกอบการแปรรูปพลาสติกมีความเห็นว่า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ต้องมีความชัดเจนเรื่องความเสถียรของไฟฟ้า ความสะดวกในเรื่องการขนส่งสินค้าข้ามแดน การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่ชัดเจน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากรัฐ
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ร่วมกันผลักดันในเรื่องสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาแก้ไขหัวข้อประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากเดิม “กิจการผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับอุตสาหกรรม" ให้เป็น 'กิจการผลิตพลาสติก' เพื่อสอดคล้องกับความต้องการผลิตภัณฑ์พลาสติกทั่วไปของประเทศเพื่อนบ้าน และสนับสนุนส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลาสติกไทยที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ สามารถได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนอย่างเต็มที่
เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตาก ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 อำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ และอำเภอแม่ระมาด โดยอำเภอแม่สอดมีจุดผ่านด่านชายแดนแม่สอด-เมียวดี และ สามารถเดินทางโดยถนนเชื่อมต่อผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 1 เชื่อมโยงไปยังเมืองย่างกุ้ง ศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมียนมาร์ ด้วยระยะทางเพียง 455 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นเขตเศรษฐกิจนำร่องของกลุ่มพลาสติก
อินโฟเควสท์
PTTGC รายได้ไตรมาส 2 แตะ 111,169 ล. ยันจีนลดค่าเงินไม่กระทบยอดขาย
แนวหน้า : นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2558 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ จำนวน 111,169 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิเฉพาะไตรมาส 2 จำนวน 8,974 ล้านบาท คิดเป็น 1.99 บาทต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 45% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2557เนื่องจากผลการดำเนินงานของกลุ่มโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องดีขึ้น
สำหรับ ผลจากการที่จีนลดค่าเงินหยวนลงนั้น ไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัท เนื่องจากเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนในการส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 30%โดยมีมูลค่าการส่งออกไปจีน 10% รวมทั้งบริษัทมีการซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการคาดการณ์ผลกำไรในปี 2558 นี้ว่าจะปรับตัวสูงกว่าปี 2557 ที่ผ่านมาแต่ผลประกอบการอาจจะน้อยกว่า ทั้งนี้เนื่องจากปี 2558 แม้ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำ แต่บริษัทได้วางแผนรับมือ โดยมีการทำประกันความเสี่ยงน้ำมันหากราคาถูกกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล บริษัทจะได้รับการชดเชย ซึ่งถือเป็นกำไรส่วนหนึ่งเช่นกัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ผ่านมามีความผันผวนมาก บริษัทจึงมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ประมาณ 49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ไม่มีผลกับการซื้อขายสินค้า เนื่องจากปัจจุบันกำลังซื้อยังมีอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดว่าในไตรมาส 3 ปี 2558 ราคาน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะทำให้สามารถสร้างกำไรได้มากกว่าปี 2557 อย่างแน่นอน และมองว่าหากราคาน้ำมันขยับมากกว่านี้ จะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทเช่นกัน และเชื่อว่าปี 2558 นี้ ราคาน้ำมันจะไม่ลดลงไปถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
สำหรับ การลงทุนล่าสุดได้อนุมัติการดำเนินธุรกิจสายโพลียูรีเทน ตามแผนการเติบโตของบริษัท โดยลงนามในสัญญาข้อตกลงเบื้องต้น 2 สัญญา เพื่อร่วมศึกษาการร่วมลงทุนโครงการผลิต โพรพิลีนออกไซด์ กำลังการผลิด 2 แสนตันต่อปี กับบริษัท โตโยต้า ทูโช คอร์ปอเรชั่น (ทีทีซี) และร่วมศึกษาการร่วมลงทุนโครงการผลิตโพลีอีเทอร์ โพลิออล กำลังการผลิด 130,000 ตันต่อปี กับ ทีทีซี และบริษัท ซันโย เคมิคอล อินดัสตรีส์ (เอสซีไอ) โดยทั้ง 2 โครงการจะตั้งอยู่ในนิคมเหมราชตะวันออก จังหวัดระยองมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อสร้างปี 2559 คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2562 ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำธุรกิจสายโพลียูรีเทนครบวงจร สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนอน ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทปลายปี 2558 นั้น จะมีโครงการลงทุนอื่นๆ ที่ชัดเจนขึ้น โดยงบประมาณการลงทุนช่วง 5 ปี (2558-2562) อยู่ที่5,000 ล้านบาท