- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 25 June 2014 22:58
- Hits: 3257
ไฟเขียวกรมอุตสาหกรรมกู้'ธ.ก.ส.' อุ้มค่าอ้อย160ช่วยเกษตกร
แนวหน้า : ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ครั้งที่ 3 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธานว่า คสช.ได้อนุมัติช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายประจำปี 2555/2556 ในราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 999.20 สตางค์ต่อตัน พร้อมทั้งเพิ่มค่าอ้อยอีก 160 บาทต่อตัน ซึ่งจะทำให้ชาวเกษตรกรไร่อ้อยนำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนลงทุนในการผลิตอ้อยครั้งต่อไป โดยงบประมาณที่ คสช.อนุมัติ กระทรวงอุตสาหกรรม จะกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้เป็นการแก้ปัญหาปีต่อปี ส่วนการแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปหารือ เพื่อช่วยหาแนวทางเกษตรกรต่อไป
คสช.ให้อุดหนุนเงินชาวไร่อ้อยกว่า 3 แสนราย 160 บาท/ตันช่วยเหลือการผลิต
ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)มีมติให้จ่ายเงินอุดหนุนชาวไร่อ้อยจำนวนกว่า 3 แสนราย ที่อัตรา 160 บาท/ตัน เพื่อช่วยเหลือการผลิตในฤดูกาลนี้
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คสช.อนุมัติการกำหนราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปีการผลิต 55/56 อยู่ที่ 999.20 บาท/ตันอ้อย และการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ที่ 160 บาท/ตัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยกว่า 3 แสนราย เป็นค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ เช่น เป็นต้นทุนในการนำเงินไปหมุนเวียนในฤดูกาลผลิตครั้งต่อไป
ทั้งนี้ คสช. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าว และยังให้มีการแก้ไขปัญหาในระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะนำไปพิจารณาภายใต้แผนในการปรับโครงสร้างอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบ
ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมคสช. รับทราบแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 57/58 โดยจะไม่ใช้นโยบายแทรกแซงการตลาดตามแนวทางเดิม ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และเป็นการบิดเบือนราคาข้าว ส่งผลต่อเกษตรกรและการค้าข้าว โดยแนวทางการแก้ปัญหาต้องเป็นไปตามกลไกการตลาด ดังนั้นจึงจะใช้มาตรการเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าข้าว ซึ่งประกอบด้วย มาตรการหลัก และมาตรการสนับสนุน โดยการลดราคาปัจจัยการผลิต ประกอบด้วย ราคาปุ๋ยไร่ละ 40 บาท, สารเคมีไร่ละ 20 บาท, เมล็ดพันธุ์ 122 บาท, ค่าบริการเกี่ยวข้าวลดลง 50 บาทต่อไร่ และค่าเช่าที่นาลดลงขั้นต่ำ 200 บาทต่อไร ดังนั้นจากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4,787 บาทต่อไร่ จะสามารถลดต้นทุนลงได้ 432 บาทต่อไร่ เหลือประมาณการต้นทุนการผลิต 4,355 บาทต่อไร่
นอกจากนี้ มีมาตรการสนับสนุนด้านการส่งเสริมปัจจัยการผลิต ด้วยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ การลดดอกเบี้ยเกษตรกร การส่งเสริมการตลาด การส่งเสริมการขายข้าวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มาตรการส่งเสริมการมีส่วนร่วม ทั้งนี้ใช้วงเงินในการดูแลราคาข้าวปีนี้ 4,747 ล้านบาท และจะทำให้ราคาข้าวอยู่ที่ 8,500-9,000 บาทต่อตัน และเมื่อหักราคาจากต้นทุนชาวนาน่าจะได้กำไรอยู่ที่ 15-20%
"เป็นราคาที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าในฤดูกาลนี้อยู่ที่ 8,500 ถึง 9,000 บาทโดยดูเฉลี่ยจากปี 2552-2553 ในราคาขณะที่ยังไม่มีมาตการประกันหรือจำนำ ก็เลยคาดการณ์เมื่อไม่มีมาตรการราคาน่าจะกลับไปอยู่ประมาณนั้น"นายชวลิต กล่าว
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า หัวหน้า คสช.ย้ำให้ช่วยเหลือเกษตรกร โดยจัดตั้งศูนย์กลางช่วยเหลือสินค้าทางการเกษตรทุกชนิด ด้วยการตั้งศูนย์เฉพาะกิจในทุกจังหวัด เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับส่วนกลาง โดยกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาและเน้นดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
อินโฟเควสท์