WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CBอทธ พศาลวานชSME ไทยผวาเพื่อนบ้านอาเซียนโกง ไม่กล้าลงทุนก่อนเปิด‘เออีซี’

      แนวหน้า : SMEไทยผวาเพื่อนบ้านอาเซียนโกง ไม่กล้าลงทุนก่อนเปิด‘เออีซี’ พาณิชย์ชี้ช่องทำ‘แอนิเมชั่น’

      นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สัดส่วนธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ไทยเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)น้อยมาก แม้ว่าหลายรายจะมีเตรียมแผนขยายกิจการ มีการออกไปศึกษาการลงทุนกับหน่วยงานภาครัฐหลายครั้ง มีศักยภาพ มีทุนพร้อม และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที

    “ส่วนใหญ่ยังลังเลไม่กล้าไปลงทุน เพราะวิตกว่าจะถูกพาร์ทเนอร์ หรือผู้ร่วมทุนในประเทศนั้นโกง หรือไม่ก็ยังไม่สามารถหาพาร์ทเนอร์ที่เอสเอ็มอีไทยถูกใจได้ ซึ่งธุรกิจที่ไปลงทุนในเพื่อนบ้านส่วนใหญ่จะเป็นรายใหญ่ที่มีศักยภาพที่เข้าไปก่อนหน้านี้มากกว่า ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะถ้าหลังการเปิดเออีซี ธุรกิจเอสเอ็มอีไม่กล้าขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอาจทำให้เอสเอ็มอีไทยสูญเสียโอกาสทางการตลาดได้”

     ทั้งนี้ จากการสำรวจความพร้อมรองรับการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทยที่จะมีการเปิดเออีซี พบว่า ส่วนใหญ่กว่า 70% มีความพร้อมที่จะแข่งขันแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็จะพร้อมในการตั้งรับในบ้านเป็นหลัก ขณะที่ผู้ประกอบการก็มีการตื่นตัวมากขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และด้านการบริหารจัดการ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่มีความพร้อมในการแข่งขัน ก็เพราะยังขาดข้อมูลเชิงลึกรายประเทศ รายเมือง รายอุตสาหกรรม ไม่รู้นโยบายส่งเสริมการลงทุนแต่ละประเทศ ไม่รู้กฎหมาย ต้นทุนการผลิต แรงงาน คู่แข่ง ไม่รู้ส่วนแบ่งตลาด ราคาขายสินค้า ช่องทางการขาย ข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งมีรายละเอียดเยอะมาก จนไม่รู้จะเริ่มนับหนึ่งอย่างไร

      ด้าน นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า นโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่ต้องการให้เพิ่มกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการเจาะตลาด ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มองเห็นโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารของไทยไปป้อนตลาดใหม่ๆ

     ส่วนการลงทุนด้านแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกไทย(tacga)นั้น กรม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกไทย(tacga) และผู้ประกอบการไทยกว่า 20 ราย เดินทางไปเจาะตลาดจีน โดยเลือกนครเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่ง เพื่อสร้างเครือข่ายและร่วมมือด้านอุตสาหกรรมดิจิตอลตอนเทนต์ระหว่างสองประเทศ ซึ่งได้ผลน่าพอใจ โดยมีการจับคู่เจรจาธุรกิจ 71 ราย คาดว่าจะมีมูลค่าเกิดขึ้นภายใน 1 ปีไม่น้อยกว่า 171 ล้านบาทและอาจจะมีข่าวดีการร่วมทุนทางธุรกิจในเร็วๆ นี้

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!