- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 27 July 2015 17:25
- Hits: 4729
ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น ฉลองครบรอบความสำเร็จ 25 ปีที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และพร้อมลงทุนเพิ่มเติมในด้านเทคโนโลยีและด้านการปฏิบัติงาน
· การซื้อเทคโนโลยีสำหรับการผลิตเคมีอุตสาหกรรมพิเศษเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลงานของกลุ่มบริษัท
· การลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในประเทศไทย
· ประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีโอลีโอเคมีของกลุ่มบริษัททั้งหมด
ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น (ThyssenKrupp Industrial Solutions) บริษัทผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิศวกรรมโรงงานและการก่อสร้างของกลุ่มบริษัท ธีสเซ่นครุปป์ ได้ทำการฉลองครบรอบ 25 ปีที่ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และประกาศว่าจะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะที่เป็นบริษัทผู้นำในด้านวิศวกรรมโรงงานในภูมิภาค โดยมีตัวแทนจากรัฐบาล ลูกค้าจากอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ และพนักงานได้เข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ
เยนส์ มิคาเอล เวกมันท์ สมาชิกของคณะกรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น กล่าวว่า“เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้าจากการเป็นหุ้นส่วนในโครงการสำคัญจำนวนมากตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้ กว่าครึ่งของพนักงานราว 1,000 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นเป็นพนักงานที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญด้านการปฏิบัติงานในภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตของเราในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเติบโตครั้งนี้ ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น กำลังขยายอุตสาหกรรมเคมีอุตสาหกรรมพิเศษและเทคโนโลยีโอลีโอเคมีผ่านการซื้อเทคโนโลยีการผลิตเคมีอุตสาหกรรมพิเศษจากวัตถุดิบหมุนเวียนมาจากบริษัท อินเวนต้า เทคโนโลยี ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาค บริษัทยังจะทำการลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งใหม่ในจังหวัดระยอง ประเทศไทย ซึ่งมีทั้งโรงงานต้นแบบและห้องทดลอง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งนี้จะช่วยส่งเสริมการทำงานของศูนย์วิศวกรรมที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย ทำให้มันกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีและความสามารถในการแข่งขันสำหรับเทคโนโลยีโอลิโอเคมีภายใต้ ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น โดยบริษัท ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น มีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนมากกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯในเทคโนโลยีใหม่และการซื้อวัตถุอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
“การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและความสามารถในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ประกอบกับความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการบริหารงานโครงการได้รับการยกย่องจากลูกค้าในระดับโลกของเรา การซื้อเทคโนโลยีที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของ อินเวนต้า แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญาของเราที่มีต่อภูมิภาคและความตั้งใจของเราที่จะขยายสินค้าไปยังตลาดที่กำลังเติบโต” เดทเลอร์ ซุดมันนน์ กรรมการผู้จัดการของ ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น ประเทศไทยกล่าว
เทคโนโลยีที่ซื้อมาประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ อัลคอกซิเลชั่น เอสเทอริฟิเคชัน และไขมันชนิดเอมีน ความสามารถในการผลิตของเคมีอุตสาหกรรมเหล่านี้ทั่วโลกอยู่ที่ 7 ล้านตันต่อปี และสามารถพบเห็นได้ในอุตสาหกรรมความงาม อาหาร อาหารเสริม และอุตสาหกรรมยา นอกจากนี้ ไขมันชนิดเอมีนยังสามารถนำไปใช้ในงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมัน เหล็ก และเคมีเกษตรได้อีกด้วย
ปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันการลงทุนเหล่านี้คือการคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตของประชากรจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นต่อโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศที่มีตลาดที่เกิดใหม่ รวมถึงประเทศในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ โดยอัตราการเติบโตของตลาดโดยประมาณสำหรับเทคโนโลยีนี้ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคอยู่ที่ร้อยละ 8.5 เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของตลาดทั่วโลกที่ประมาณร้อยละ 6
ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น ในประเทศไทย เป็นหนึ่งในบริษัทวิศวกรรมหลายสาขาและบริษัทผู้รับเหมาโครงการชั้นนำ โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯและมาบตาพุด ซึ่งให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมเคมี ปิโตรเคมี โอลิโอเคมีคอล การกลั่น น้ำมันและแก๊สทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โพลีเมอร์ ไฟเบอร์ ปุ๋ย พลาสติกชีวภาพ ซีเมนต์ กระบวนการถลุงแร่ การขนย้ายวัสดุ และภาคอุตสาหกรรมทั่วไป ตั้งแต่ที่บริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในปี 2533 ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น ก็ได้ปฏิบัติงานอย่างประสบความสำเร็จตามสัญญามากกว่า 80 โครงการ ซึ่งเป็นทั้งโครงการแบบ Engineering Procurement and Construction (EPC) โครงการแบบเหมา / แบบราคาคงที่ และโครงการแบบบริการตามวงจรอายุสำหรับลูกค้าในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ธีสเซ่นครุปป์ในเอเชียแปซิฟิก
ธีสเซ่นครุปป์ มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 24,000 คน ใน 19 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งต่างทำงานด้วยความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน โดยความเชี่ยวชาญและคำมั่นสัญญาของพนักงานทุกคนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของความสำเร็จของเรา ในปีงบประมาณ 2556/2557 ธีสเซ่นครุปป์ ในเอเซียแปซิฟิกมียอดขายประมาณ 4.9 พันล้านยูโร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 12 ของยอดขายทั่วโลก สำหรับบริษัทแล้ว ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและเทคโนโลยีคือปัจจัยสำคัญในการจัดการการเติบโตในระดับโลกและการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดด้วยวิธีการที่ยั่งยืน ด้วยความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมของบริษัทในด้าน 'เครื่องกล''โรงงาน'และ 'วัสดุ' ทำให้บริษัทสามารถช่วยให้ลูกค้ามีข้อได้เปรียบในตลาดโลกและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยในราคาที่เป็นมิตรและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เรามีพื้นฐานการทำงานอย่างดีในประเทศไทยซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจที่เราเริ่มทำมาตั้งแต่ปี 2415
ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น
การบริการด้านการก่อสร้างและวิศวกรรมของผู้เชี่ยวชาญแบบครบวงจรและและประวัติศาสตร์การต่อเรือที่เกิดขึ้นเมื่อหลายศตวรรษที่ผ่านมาถือเป็นจุดแข็งของภาคธุรกิจ อินดัสเทรียล โซลูชั่น โดยวิศวกรรมที่มีคุณภาพสูงนั้นคือศูนย์กลางความสำเร็จของ ธีสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น ทักษะในการจัดการโครงการระดับโลก ความเชี่ยวชาญการบูรณาการระบบชั้นเยี่ยม การจัดซื้อที่มีความน่าเชื่อถือและการจัดการซัพพลายเออร์ รวมไปถึงการนำเสนอบริการที่ได้มาตรฐานสูงสุด ล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าอย่างยั่งยืน ด้วยพนักงานราว 19,000 คนจากสำนักงานกว่า 70 แห่งช่วยสร้างเครือข่ายระดับโลกด้วยผลงานด้านเทคโนโลยีที่มีการรับประกันผลผลิตสูงสุดและการใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
อินเวนต้า เทคโนโลยี
อินเวนต้า เทคโนโลยี (Inventa Technologies) เร่งสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านเคมีเฉพาะ อุตสาหกรรมทางโอลิโอเคมีและอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ และการศึกษาเฉพาะทางด้านการค้าทางทรัพย์สินทางปัญญา ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น โดยวิธีการเชิงปฏิบัติของ อินเวนต้า เทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดการดำเนินการโครงการโรงงานที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนมากในอุตสาหกรรมที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น นอกจากนี้ อินเวนต้า เทคโนโลยี ยังได้ดำเนินการด้านเทคโนโลยี ความปลอดภัยและการตรวจสอบกระบวนการโรงงาน รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ สำหรับอุตสาหกรรมเคมีเฉพาะ อุตสาหกรรมโอลิโอเคมี อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเภสัชโภชนศาสตร์ และอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย