- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Friday, 20 June 2014 00:10
- Hits: 3667
โรงงานยาสูบ จับมือ ต่างชาติทำการวิจัยร่วม คิดค้นนวัตกรรมสร้างภูมิต้านทานไวรัสในใบยาสูบเป็นครั้งแรกของโลก
โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง ร่วมมือกับ บริษัท โกลด์ ดาร์กอน อินเวสเมนท์ จำกัด (Gold Dragon Investment Pte. Ltd.) จากประเทศสิงคโปร์ จัดทำโครงการทดลองร่วม’การสร้างภูมิต้านทานยาสูบเพื่อต้านทานโรคไวรัส’(Boosting Immunity against Viral Diseases in Tobacco) เพื่อศึกษากลไกทางสรีระวิทยาในการเสริมสร้างภูมิต้านทานของยาสูบเวอร์ยิเนีย เบอร์เลย์ และเตอร์กิช ที่มีต่อการต้านทานโรคไวรัสยาสูบ นับเป็นการทดลองกับพืชใบยาสูบเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อนำผลการทดลองไปพัฒนาและช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบ ด้านการเพาะปลูกใบยา และเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ ตั้งเป้านวัตกรรมใหม่ของการสร้างภูมิต้านทานไวรัสในวงการพืช และเกษตร ของประเทศไทย
นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ผู้อำนวยการยาสูบ โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า'ไวรัสถือเป็นปัญหาของเกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบทั่วประเทศ โดยสถิติแล้วจำนวนความเสียหายต่อการปลูกใบยาหนึ่งครั้งจะถูกไวรัสคุกคามเฉลี่ย 10-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเทียบเป็นเม็ดเงินที่สูญเสียไปนับเป็นจำนวนไม่น้อยต่อปี และที่ผ่านมายังไม่มียาตัวใดที่สามารถรักษาหรือฆ่าเชื้อไวรัสได้ ไม่ว่าจะเป็นในคน สัตว์ และพืช ซึ่งโรงงานยาสูบได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว โดยพยายามคิดค้นหาวิธีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของโรงงานยาสูบในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน โดยโครงการทดลองร่วม'การสร้างภูมิต้านทานยาสูบเพื่อต้านทานโรคไวรัส'ครั้งนี้นับเป็นการทดลองกับพืชใบยาสูบเป็นครั้งแรกของโลก โดยร่วมกับบริษัท โกลด์ ดาร์กอน อินเวสเมนท์ จำกัด (Gold Dragon Investment Pte. Ltd.) จากประเทศสิงคโปร์ โดยมีนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญทำวิจัยเรื่องไวรัส เป็นที่ปรึกษา และมีการทำงานวิจัยเกี่ยวกับไวรัสในพืช และสัตว์ ประสบความสำเร็จมาแล้ว ดังนั้น ด้วยความสามารถและศักยภาพของบริษัทพร้อมด้วยทีมวิจัยที่มีประสบการณ์ ผนวกกับงานวิจัยที่โรงงานยาสูบได้ทำไว้ นำมาทดลองร่วมกันจะช่วยวิจัยใบยาสูบ ให้ได้รับผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ และสามารถต่อยอดไปสู่การวิจัย และพัฒนาด้านอื่นได้ต่อไป'
"เชื้อไวรัสสามารถทำให้เกิดโรคกับต้นยาสูบได้ทุกระยะการเจริญเติบโต ตั้งแต่เป็นต้นกล้าในแปลงเพาะหรือเข้าทำลายต้นยาสูบในช่วงที่ต้นยาสูบโตแล้ว ซึ่งมีรายงานการพบโรคไวรัสยาสูบประมาณ 10 ชนิด และมี 6 ชนิดที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ไวรัสโรคใบหด (tobacco leaf-curl virus, TLCV) ไวรัสโรคใบด่าง (tobacco mosaic virus, TMV) โรคไวรัสใบด่างแตง (tobacco mosaic virus, CMV) ไวรัสโรคแผลละเอียด (tobacco streak virus) ไวรัสโรคใบจุดเหี่ยวมะเขือเทศ (tobacco spotted with virus} TSWV) ไวรัสโรคเส้นใบแห้งมันฝรั่ง (potato virus Y, PVY) ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลกระทบต่อจำนวนการเก็บเกี่ยวผลผลิตและระดับคุณภาพใบยาที่มีผลต่อราคาที่รับซื้อ ส่งผลต่อชีวิตและรายได้ของชาวไร่ยาสูบโดยตรง นอกจากนี้วิธีการดั้งเดิมในการป้องกันเชื้อไวรัสระบาดในใบยาสูบต้องพึ่งพาสารเคมีเป็นหลัก ซึ่งต้องอาศัยความระมัดระวังในการใช้ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว และบางครั้งอาจจะตกค้างในใบยาที่เก็บเกี่ยวอีกด้วย" นายต่อศักดิ์กล่าว
ทางด้าน นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์ ดาร์กอน อินเวสเมนท์ จำกัด (Gold Dragon Investment Pte. Ltd.) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ทางบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้จัดทำโครงการทดลองร่วม "การสร้างภูมิต้านทานยาสูบเพื่อต้านทานโรคไวรัส" ร่วมกับโรงงานยาสูบซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับชาวไร่ มีการสนับสนุน คิดค้นและพัฒนาการปลูกใบยาสูบที่มีคุณภาพ ปลอดภัยไร้สารตกค้าง รักษาสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบ GAP (Good Agriculture Practices) ที่กำหนดโดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โดยบริษัทฯ มีนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านภูมิต้านทานวิทยาซึ่งมีชื่อเสียงในการวิจัยโรคไวรัสในพืชและสัตว์ ซึ่งได้ทำงานวิจัยเกี่ยวกับไวรัสในพืช และสัตว์ ประสบความสำเร็จมาแล้วที่ประเทศอิสราเอล และประเทศรัสเซีย สำหรับการวิจัยร่วมในครั้งนี้ บริษัทฯ หวังว่าจะเกิดผลประโยชน์ต่อวงการวิจัย การแพทย์ และเกษตรอย่างกว้างขวาง และเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาพวกเราทุกคนไปสู่มิติใหม่แห่งการรักษาโรคร้ายต่างๆ ด้วยวิธีธรรมชาติ"
"การทดลองร่วมกันครั้งนี้แบ่งการวิจัยออกเป็นสองส่วนคือ การทำวิจัยจากห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาที่ประเทศอินโดนีเซีย และจากแปลงทดลองของโรงงานยาสูบ สถานีทดลองแม่โจ้ สำนักงานยาสูบสุโขทัย และสำนักงานยาสูบนครพนมในประเทศไทย จะมีการเก็บตัวอย่างไวรัสแล้วนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการจากนั้นทดลองปลูกใบยาสูบในเรือนกระจก และติดตามประเมินผลจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว อบใบยา เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพผลผลิตจนถึงปลายทาง คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการทดลองประมาณ 2 ปี”นายชัชวาลย์ กล่าวเสริม
“ผลสำเร็จจากการทดลองร่วมในครั้งนี้จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในวงการพืชผลการเกษตรของประเทศไทย ซึ่งโรงงานยาสูบจะนำผลการทดลองที่ได้ไปต่อยอดเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ ในการเพิ่มผลผลิตและสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ พร้อมกับนำผลการทดลองต่อยอดไปถึงการทำการค้าร่วมกันกับพันธมิตรในการผลิตเมล็ดพันธ์ยาสูบที่มีภูมิต้านทานเชื้อไวรัสได้เป็นประเทศแรกของโลก และจำหน่ายไปทั่วโลกอีกด้วย”นายต่อศักดิ์ กล่าวสรุป
Attaya Chaopant Neo Target Company Limited
317 Kamolsukosal Building, 16th Floor,
Unit A,B,C, Silom Road, Silom, Bangrak
Bangkok, 10500 Thailand Tel. 662 631 2290-5 Fax. 662 234 6192-3