- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 11 May 2015 08:00
- Hits: 2887
แนะย้ายฐานผลิตไปเพื่อนบ้าน
บ้านเมือง : นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งประกอบด้วย สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง และอัญมณีและเครื่องประดับ กำลังเผชิญกับปัญหาด้านการผลิต จากค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้นและปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) จากประเทศคู่ค้า ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านยังได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากตลาดสำคัญ โดยลูกค้าเรียกร้องให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายใหญ่ ย้ายหรือขยายฐานการผลิตไปประเทศที่มีค่าแรงต่ำกว่า เช่น เมียนมาร์ กัมพูชา เวียดนาม และ สปป.ลาว เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
ทั้งนี้ จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยเกิดการปรับตัว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการย้ายหรือขยายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นวิธีหนึ่งที่พยายามให้เกิดความเชื่อมโยงของเครือข่ายการผลิตด้วยโครงข่ายคมนาคมในภูมิภาค ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการยกระดับการผลิตในแต่ละขั้นตอนการผลิตในประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้น โดยผลจากการศึกษาโครงการแสวงหาแนวทางการย้ายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รองเท้าและเครื่องหนัง อัญมณีและเครื่องประดับ) ระยะที่ 2 พบว่า การย้ายหรือขยายฐานการผลิตของผู้ประกอบการโดยเฉพาะSMEs ควรพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเชิงอุตสาหกรรมและเชิงพื้นที่
โดย สศอ. พบว่า ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีโอกาสที่จะย้ายหรือขยายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากมีความพร้อมด้านเงินทุน และมีความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงได้มากกว่า ส่วนขั้นตอนการผลิตในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มย้ายหรือขยายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือ ขั้นตอนการผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ ใช้แรงงานจำนวนมาก มีกระบวนการผลิตไม่ซับซ้อน ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรในระดับที่ไม่สูงนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว เป็นประเทศที่มีความน่าสนใจสำหรับเป็นพื้นที่เป้าหมายในการย้ายหรือขยายฐานการผลิตของอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นของไทยไม่แพ้เวียดนาม และเมียนมาร์ แต่ทั้งกัมพูชา และ สปป.ลาว ก็มีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ กำลังแรงงานที่จำกัด ดังนั้น ในกรณีนี้กัมพูชา และ สปป. ลาว จึงเหมาะสมกับผู้ประกอบการ SMEs มากกว่าผู้ประกอบการขนาดใหญ่