- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Saturday, 04 April 2015 22:12
- Hits: 2087
‘CP’ลงทุน 20 ล้านดอลลาร์ สร้างรง.แปรรูปอาหารในเวียดนามเพิ่ม
แนวหน้า : นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร เขตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หรือ ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่บริษัทได้เริ่มเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน มองว่าเวียดนามยังเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณประชากรที่มีมากกว่า 90 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ในประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีความพร้อมในด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ดังนั้นบริษัทจึงยังคงขยายการลงทุนด้านธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรในเวียดนาม อย่างต่อเนื่อง โดยทิศทางของการลงทุนในปี 2558 นี้ บริษัทจะเน้นขยายธุรกิจอาหารแปรรูป ประเภทอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ให้มากขึ้น
“การขยายธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เป็นการรองรับการส่งออกอาหารสำเร็จรูปที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้น รวมทั้งการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสังคมเมืองของเวียดนามเอง ที่เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจของเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประชากรมีความรู้และรายได้เพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มบริโภคอาหารนอกบ้านและอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น”นายมนตรี กล่าว
นอกจากนี้ ยังนับเป็นการต่อยอดธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่แล้วกว่า 20 ปี ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานแปรรูปอาหารเนื้อหมูและไก่ 2 แห่ง และสัตวน้ำ 3 แห่ง และในปี 2558 นี้ก็ได้จัดสรรงบลงทุน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในการก่อสร้างโรงงาน เพื่อขยายกำลังการผลิตอาหารแปรรูป มีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2559 ดังนั้น บริษัทจึงมีความพร้อมที่จะขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ยังมีโอกาสพัฒนาและเติบโตได้อีกมาก โดยประมาณการความต้องการบริโภคหมูในปี 2558 ของเวียดนามสูงถึง 47 ล้านตัวต่อปี ขณะที่ธุรกิจหมูที่บริษัทผลิตได้เพียง 3.9 ล้านตัวต่อปีเท่านั้น แต่ก็นับเป็นผู้ผลิตเชิงอุตสาหกรรมรายใหญ่อันดับ 1 ในเวียดนาม
“ตลาดเวียดนามกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงเป็นโอกาสของบริษัทในการสร้างความเชื่อมั่นถึงคุณภาพและความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ซีพีมากขึ้น โดยให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องของการผลิตอาหารสะอาดและปลอดภัย ด้วยต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต และเพื่อรองรับธุรกิจที่จะขยายตัวในระยะยาว บริษัทได้เตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ทั้งเกษตรกร พนักงาน และผู้บริหารที่เป็นชาวเวียดนาม ซึ่งผ่านการถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญจากไทย โดยในปี 2557 บริษัทมียอดขายรวม 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 64,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2556 รายได้ส่วนใหญ่ 95% มาจากตลาดเวียดนาม ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการส่งออก” นายมนตรีกล่าว