- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Wednesday, 25 March 2015 23:06
- Hits: 2350
อุตฯจ่อชงครม.ปัดฝุ่นเวสเทิร์นซีบอร์ด
ไทยโพสต์ : พระราม 6 * ‘จักรมณฑ์’ เตรียมเสนอ ครม.เศรษฐกิจอีก 2 สัปดาห์ ปัดฝุ่นเวสเทิร์น ซีบอร์ด ดันอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำเข้าโครงการ คาดเปิดทางเอกชนและเครือสหวิริยาเข้าร่วม
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลัง นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. สหวิริยาสตีล อินดัสตรี หรือเอสเอสไอ เข้าพบ ว่าแนวทางการจัดตั้งโครงการพัฒนาพื้น ที่อุตสาหกรรมภาคตะวันตก (เวสเทิร์น ซีบอร์ด) มีความเป็น ได้สูง ซึ่งจะมีลักษณะเดียวกับ โครงการพัฒนาพื้นที่อุตสาห กรรมภาคตะวันออก (อีสเทิร์น ซีบอร์ด) แต่อยู่คนละฝั่งกัน โดย แผนพัฒนาเวสเทิร์น ซีบอร์ด เตรียมจะหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจในอีก 2 สัป ดาห์ข้างหน้า
สำหรับ นโยบายการส่งเสริมเพื่อให้เกิดเวสเทิร์น ซีบอร์ด นั้น เป็นไปได้ที่จะส่งเสริมอุตสาห กรรมเหล็กต้นน้ำ เนื่องจากปัจจุ บันไทยต้องนำเข้าเหล็ก 10 ล้านตันต่อปี ดังนั้นการลงทุนโรงงานเหล็กต้นน้ำ จะต้องมีขนาด 4 ล้านตันต่อปี จึงจะคุ้มทุน โดยปัจจุบันไทยก็มีโรงงานผลิตเหล็กกลางน้ำในจังหวัดระยอง ดังนั้นการพัฒนาเวสเทิร์น ซีบอร์ด ควรมีอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำด้วย ขณะเดียวกันจะมีอุตสาหกรรมอื่นอะไรบ้างนั้น จะต้องหารือในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจต่อไป ซึ่งมั่นใจว่าจะมีความชัดเจนด้านนโยบายภาคในรัฐบาลชุดนี้
"รัฐบาลจะประกาศนโย บายส่งเสริมพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ โดยให้เอกชนทำ หากเครือสหวิริยาสนใจเข้าร่วมก็สามารถเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวได้ ที่เดิมมีแผนลงทุนโรงงานเหล็กต้นน้ำของเครือสหวิริยาที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ หากสนใจก็สามารถเข้ามาหารือกับกระทรวงได้" นายจักรมณฑ์กล่าว.
'จักรมณฑ์'ลุยอุตฯเหล็กต้นน้ำ หวังดัน'เวิสเทิร์นฯ'เชื่อมอันดามัน
แนวหน้า : นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการเข้าหารือของผู้บริหารในเครือสหวิริยา ว่า ทางกลุ่มสหวิริยาได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำซึ่งทางบริษัทฯ ได้มีโครงการจะพัฒนาขึ้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในส่วนของนโยบายรัฐบาลนั้นเห็นว่า ควรจะส่งเสริมการลงทุนให้เกิดขึ้นในไทย เนื่องจากไทยมีการใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องจำนวนมาก
"คือจริงๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งฝั่งไทยและพม่าในส่วนที่ทวาย แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้เกิดขึ้นในฝั่งไทยมากกว่า เพราะจะสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตก หรือ "เวสเทิร์นซีบอร์ด" เพื่อการเชื่อมโยงโครงข่ายกับเมียนมาร์เปิดประตูเศรษฐกิจสู่อันดามัน โดยพื้นที่ฝั่งตะวันออกปัจจุบันไม่มีพื้นที่ที่จะขยายการลงทุนแล้ว อีกทั้งปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันตกมีศักยภาพ มากขึ้น หลังจากไทยและเมียนมาร์กำลังร่วมกันพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งจุดนี้รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมผลิตเหล็กต้นน้ำ เชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น ดังนั้นการประกาศนโยบายส่งเสริมฯก็น่าจะเกิดได้ในรัฐบาลนี้แต่จะให้เกิดการลงทุนคงไม่ทันเพราะต้องใช้เวลานาน"นายจักรมณฑ์กล่าว
นอกจากนี้ ทางเครือสหวิริยาซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กเส้นรายหนึ่งยังได้หารือถึงปัญหาการถูกสินค้าเหล็กราคาถูกทุ่มตลาดโดยต้องการให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) พิจารณามาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก(เซอร์ชาร์จ) เพิ่มขึ้นซึ่งเรื่องนี้ได้แนะนำให้ทำหนังสือไปยังบอร์ดบีโอไอโดยตรงเนื่องจากบีโอไอไม่ได้อยู่ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมแล้วจึงไม่สามารถผลักดันให้ได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาปัญหาการทุ่มตลาดมีการยื่นร้องเรียนให้ทางสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) เพื่อปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานการนำเข้าเหล็กเพื่อเป็นการปกป้องผลิตภัณฑ์เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งสมอ.ก็ดำเนินการไปแล้วและกรณีการออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดหรือ AD ก็เป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์เครื่องมือกระทรวงอุตสาหกรรมเองมีไม่มากนัก