WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กรมโรงงานบี้รถขนกากอุตฯ ติดจีพีเอสฝ่าฝืนเจอคุก 2 ปีปรับ 2 แสน

    แนวหน้า : นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกากอุตสาหกรรมอันตราย 3.35 ล้านตัน แต่ในปีที่ผ่านมามีการจัดการอย่างถูกต้องเพียง 1 ล้านตันเท่านั้น โดยในปีนี้กรมฯได้ตั้งเป้านำกากอุตสาหกรรมอันตรายเข้าระบบให้ได้ 1.2-1.5 ล้านตัน มีโรงงานที่ได้ลงทะเบียนในระบบจัดการกากอุตสาหกรรม และส่งขยะอุตสาหกรรมออกไปบำบัด/กำจัด/รีไซเคิลแล้วจริงๆ ประมาณ 5,300 โรงงาน จาก 68,000 โรงงาน เท่านั้น ดังนั้น ทางกรมจะใช้แผนจัดการกากอุตสาหกรรมในระยะ 5 ปีข้างหน้า ที่จะเสนอ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในสัปดาห์หน้า ในการเร่งรัดโรงงานเข้าระบบให้ได้ 10,000 โรงงานภายในปีนี้

   โดยประกอบด้วยยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ 1.การกำกับดูแล การบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ติดตามการต่ออายุใบอนุญาตโรงงานที่ขาดการจัดการกากอุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาระบบติดตามการขนส่งกากอันตรายให้สมบูรณ์ 2.การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืน การอำนวยความสะดวกกับผู้ปฎิบัติตาม 3.การสร้างความร่วมมือ แรงจูงใจให้กับผู้ประกอบการนำกากอุตสาหกรรมเข้าระบบ และ 4.การสนับสนุนจากเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่รองรับกากอุตสาหกรรม 6 แห่ง สำหรับอนาคต 20-30 ปี และแผนการจัดการแผงโซลาร์เซลล์ที่จะหมดอายุใน 20 ปีข้างหน้า โดยคาดว่า จะมีปริมาณสูงกว่า 2 แสนตัน

   ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2558 ทางกรมฯได้รับงบประมาณ 14 ล้านบาทในการลงทุนติดตั้งระบบรับสัญญาณจีพีเอสเพื่อเป็นการควบคุมรถบรรทุกขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตรายที่มีอยู่ประมาณ 3,400 คันทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่สามารถลงโทษรถบรรทุกที่ยังไม่ติดสัญญาณจีพีเอสได้ เนื่องจากทางกรมยังไม่ได้ติดตั้งระบบรับสัญญาณจีพีเอส แต่คาดว่า ภายในกันยายนนี้จะสามารถติดตั้งเสร็จเรียบร้อย และหลังจากนั้นจะมีบทลงโทษรถบรรทุกที่ยังไม่ได้ติดสัญญาณจีพีเอส ตาม พ.ร.บ.ควบคุมวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535โดยมีโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นความสมัครใจของกลุ่มผู้ขนส่งในการติดตั้งจีพีเอสในรถบรรทุก โดยใช้งบประมาณในการติดตั้งประมาณ 2 หมื่นบาทต่อคัน

   นอกจากนี้ ทางกรมฯได้มีการเข้าไปตรวจสอบโรงงานกำจัดกากฯทั้ง 3 ประเภท ซึ่งประกอบด้วย โรงงานลำดับที่ 101 คือ โรงงานปรับคุณภาพของเสียรวม โรงงานลำดับที่ 105 คือ โรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยกหรือฝั่งกลบสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ และโรงงานลำดับที่ 106 คือโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตฯที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตฯ จากจำนวนทั้งสิ้น 1,600 โรงงาน  พบ 110 โรงงานไม่ได้มาตรฐานตามที่กรมกำหนดไว้ ดังนั้นได้ทางกรมได้ให้ระงับการให้บริการก่อนจนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้องตามมาตรฐานของกรม หากไม่ปฏิบัติตามหรือไม่สามารถแก้ไขได้ก็จะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการต่อไป

     นายวันชัย เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.อัคคีปราการ (AKP) กล่าวว่า ในปี 2557 ที่ผ่านมาปริมาณกากอุตสาหกรรมที่บริษัทเผาทำลายไม่แตกต่างจากปี 2556 เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศไม่ดีนัก จากที่ตั้งเป้าโตไว้ที่ 20% แต่กลับโตเพียง 5% เท่านั้น แต่คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมมีการเติบโต ดังนั้น จำนวนกากอุตสาหกรรมก็จะเติบโตตามไปด้วย รวมทั้งภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดกากอุตสาหกรรมและหลังจากแผนกำจัดการอุตสาหกรรมผ่านเห็นชอบจาก ครม. คาดว่าจะมีกากอุตสาหกรรมอันตรายเข้าระบบเพิ่มขึ้นอีกปีละ 5 แสนตัน ซึ่งเตาเผาปัจจุบันที่บริษัทสามารถเผาทำลายได้ประมาณ 50 ตัน/วัน และเฉลี่ยแต่ละปีบริษัทมีการกำจัดกากเฉลี่ยปีละ 9 หมื่นถึง 1 แสนตันต่อปี

     "ส่วนในอนาคตหาก กรอ. มีนโยบายจะเพิ่มเตาเผากากอุตสาหกรรมให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นครบทุกภาคของประเทศไทย จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมของบริษัทฯ จึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งทางด้านบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในการเข้าไปมีส่วนร่วมให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จได้ตามเป้าหมายภายใน 5 ปี" นายวันชัยกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!