WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'สถาบันอาหาร'เผยส่งออกปี 57 มูลค่าพุ่งกว่า 101หมื่นล.บาท

    แนวหน้า : นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 2557 มีมูลค่า 1,010,00 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับเป็นครั้งแรกที่ไทยส่งออกสินค้าอาหารแตะระดับล้านล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจและการค้าในภูมิภาคขยายตัว โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศอาเซียน  รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ  อีกทั้งการลดลงของราคาสินค้าเกษตร วัตถุดิบ และน้ำมัน ที่ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตและกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ราคาสินค้าไทยถูกลงในมุมมองของประเทศคู่ค้า ซึ่งสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 3 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว เติบโตร้อยละ 26.1 มันสำปะหลัง เติบโตร้อยละ 22.1 และเนื้อไก่เติบโตร้อยละ 12 ส่วนตลาดส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 3 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน ร้อยละ 22.2 ญี่ปุ่นร้อยละ 13.1 และจีน ร้อยละ 11.8

    "การส่งอออกข้าวขยายตัวสูงขึ้น เนื่องจากข้าวไทยแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น เพราะราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดหลัก หลังจากสิ้นสุดโครงการรับจำจำข้าว  ส่วนมันสำปะหลังการส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศคู่ค้าอย่างจีนมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเพื่อทดแทนข้าวโพดที่ถูกกีดกันไว้เพื่อความมั่นคงด้านอาหาร ขณะที่ไก่ การส่งออกเพิ่มขึ้นในส่วนไก่สดเป็นหลัก หลังจากประเทศคู่ค้าสำคัญส่วนใหญ่อนุญาตให้นำเข้าไก่สดจากไทยได้ ซึ่งสินค้ากลุ่มดังกล่าวทำให้ภาพรวมของการส่งออกไทยในปีที่ผ่านมามีการขยายตัวที่ดีขึ้น" นายเพ็ชรกล่าว

    สำหรับ แนวโน้มการส่งออกสินค้าอาหารไทยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 1,080,00 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.9 ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินบาท ราคาน้ำมันที่ลดลงจนส่งผลดีต่อภาคการผลิตและขนส่ง รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอาหาร ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าว มันสำปะหลัง และเนื้อไก่ได้รับอานิสงค์ตามไปด้วย ขณะเดียวกันยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้รายได้การส่งออกลดลง ภาวะเงินฝืดที่ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น และการที่ไทยถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ จีเอสพี กระทบผู้ส่งออกที่พึ่งพิงตลาดยุโรปเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรและผักผลไม้แปรรูป

    นายเพ็ชร กล่าวว่า แผนงานในปี 2558 สถาบันอาหารได้ดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญ 4 ประการ คือ 1.การสร้างนวัตกรรมและส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และวิสาหกิจชุมชน 2. การพัฒนาระบบข้อมูลสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหารที่ล้ำสมัย เข้าถึงได้ง่ายและตอบสนองทันต่อเหตุการณ์ 3. การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตตลอดห่วงโซ่อาหารสู่สากล และ 4.การพัฒนาสมรรถนะสถาบันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร

  โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินกิจกรรมหลากหลายผ่านโครงการสำคัญๆ คือ 1.โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก หรือ Thailand Food Quality to the World 2.โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารของไทย หรือ Thailand Food Forward และ3.โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการที่มุ่งสนองนโยบาย "ครัวไทยสู่ครัวโลก" โดยเน้นให้ไทยเป็น "ครัวคุณภาพของโลก"

    นอกจากนี้ สถาบันอาหารยังตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เติบโตรองรับเออีซี ด้วยการยกระดับโรงงานแปรรูปอาหารเข้าสู่กระบวนการผลิตตามมาตรฐานสากลกว่า 500 สถานประกอบการ พัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบทางการเกษตรไม่น้อยกว่า 90 ผลิตภัณฑ์

สถาบันอาหารคาดปีนี้ส่งออกแตะ 1.08 ล้านลบ. ได้บาทอ่อน-ศก.โลกโตช่วยหนุน

    สถาบันอาหาร เผยแนวโน้มการส่งออกอาหารไทยในปี 2558 คาดว่าจะมีมูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ เศรษฐกิจโลกขยายตัว, เงินบาทอ่อนค่า, ราคาน้ำมันลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่ง รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมอาหาร เช่น การสานต่อโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก การส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล เป็นต้น

    สำหรับ สินค้าหลักส่วนใหญ่ที่คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นในปีนี้ ประกอบด้วย 6 สินค้าหลัก คือ ข้าว เพิ่มขึ้น 2.4%, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 9.4%, ไก่ เพิ่มขึ้น 7.1%, กุ้ง เพิ่มขึ้น 20.4%, ปลาทูน่ากระป๋อง เพิ่มขึ้น 0.7%, และเครื่องปรุงรส เพิ่มขึ้น 7.4% มีเพียงการส่งออกสับปะรดกระป๋องที่คาดว่าจะหดตัวลงเล็กน้อย 3% เนื่องจากปัญหาความไม่แน่นอนด้านวัตถุดิบ และน้ำตาลทรายที่มีปัญหาเรื่องภัยแล้งทำให้การผลิตอ้อยลดลง 5.4%

    ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารในปีนี้ ได้แก่ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้รายได้จากากรส่งออกสินค้าอาหารลดลง เช่น ข้าว, น้ำตาลทราย, ภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงการที่ไทยถูกสหภาพยุโรปตัดสิทธิ GSP ทุกสินค้าตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไป ซึ่งกระทบกับผู้ประกอบการส่งออกที่พึ่งพิงการส่งออกไปยัง EU โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารทะเล และกลุ่มผักผลไม้แปรรูป เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบชัดเจนกว่าอาหารประเภทอื่นๆ เนื่องจากเป็นสินค้าส่งออกหลักในตลาดยุโรป

   นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการ สถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2558 สถาบันอาหารยังมีแผนงานสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทางด้านความปลอดภัยของอาหารและการประสานงานเพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมและธุรกิจอาหาร ดังนี้ 1. ด้านนโยบายรัฐนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก แบ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวคุณภาพของโลก, การดำเนินงานภายใต้โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารของไทย, การดำเนินงานด้านนโยบายรัฐนโยบายอาหารฮาลาล

   2. ด้านการส่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร 3. ด้านการเพิ่มผลิตภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 4. ด้านความร่วมมือกับต่างประเทศในการสนับสนุนอุตสาหกรรมอาหาร 5. การดำเนินงานเพื่อสังคม

  สำหรับ การดำเนินงานในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา (2554-2557) สถาบันอาหารดำเนินกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้ โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก หรือ Thailand Food Quality to the World, โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารของไทย หรือ Thiland Food Forward และ โครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล

  ทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการที่มุ่งสนองนโยบาย'ครัวไทยสู่ครัวโลก' โดยเน้นให้ไทยเป็น'ครัวคุณภาพของโลก'โดยสถาบันอาหารได้รับงบประมาณอุดหนุนจากกระทรวงอุตสาหกรรมนับแต่ปี 2554-2557 รวม 1,260.80 ล้านบาท สามารถพัฒนาออกมาเป็นผบิตภัณฑ์ใหม่รวมทั้งสิ้นกว่า 500 ผลิตภัณฑ์ ทางสถาบันอาหารจึงได้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ให้สามารถเข้าสู่สนามการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน

   และเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2558 โดยพระองค์ได้รับพระสมญานามว่า"เจ้าฟ้านักโภชนาการ" สถาบันอาหารจึงริเริ่มดำเนินการโครงการเทิดพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี"ขึ้น 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการส่งเสริมการเรียนรู้อุตสาหกรรมอาหารของไทย จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย หรือ Thai Food Heritage โดยสถาบันอาหารได้รับงบประมาณ 60 ล้านบาทในการปรับปรุงอาคารสำนักงานโรงสุราบางยี่ขันเดิมให้เป็น ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย หรือ Thai Food Heritage เป็นพื้นที่รวบรวมความรู้ด้านประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารไทยและการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย รองรับกลุ่มเป้าหมายคือ นักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติ นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการและบุคคลในแวดวงอาหาร รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าจะสามารถเปิดบริการบางส่วนในเฟสแรกได้ในวันที่ 2 เมษยน 2558 นี้

  2.โครงการพัฒนาเกณฑ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศด้านความสามารถในการดำเนินการอย่างยั่งยืน และ 3.โครงการยกระดับ 600 ครัวอาหารของไทย ก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล(600 Mass Catering for International Standard) ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการรับสมัครครัวอาหารจากทั่วประเทศให้เข้าร่วมโครงการแล้วโดยความร่วมมือกับสมาคมโรงแรมไทย สมาคมเชฟประเทศไทย

  ทั้งนี้ สถาบันอาหารได้จัดทำ สุขลักษณะที่ดีของครัวผลิตอาหารสำหรับคนหมู่มาก (GMP in Mass Catering)" เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการอาหารของไทยใช้เป็นแนวทางการบริหารจัดการ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาในการผลิตและบริการอาหารสำหรับคนหมู่มากอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการบริโภคอาหาร และยกระดับมาตรฐานด้านสุขลักษณะในการผลิตและบริการอาหารให้สูงขึ้นเทียบเท่าสากล รวมทั้งสร้างความพร้อมและความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!