- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Tuesday, 11 April 2023 22:45
- Hits: 1671
รักษาการนายกฯ เยี่ยมชมบูธ สสว. เปิดตัวโครงการ ‘SME Restart’ ยกศักยภาพ SME สายท่องเที่ยว คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 500 ล้าน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธ สสว. เปิดตัวโครงการ SME Restart ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มท่องเที่ยว 5 กลุ่มธุรกิจหลัก เชื่อมโยงกับชุมชน 15 ชุมชน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ราย พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว Next Normal ตอบโจทย์วิถีการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ทางสสว. ได้ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำโครงการ SME Restart มีวัตถุประสงค์ เพื่อขยายการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ Sandbox เพิ่มเติม ตามนโยบายของรัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ในการก้าวสู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ และสร้างต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
“สสว.จะมีการรับสมัครผู้ประกอบการเอสเอ็มอีท่องเที่ยวทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ พร้อมเผยแพร่ต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนา 15 กลุ่มธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในวงกว้างทั้งแบบออนไลน์ ออฟไลน์ จากนั้น จะจัดกิจกรรม ยกระดับผู้ประกอบการท่องเที่ยว (Tourism Transform) เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ พร้อมให้ความรู้ตามเมกาเทรนด์ อาทิ Wellness & Senior Tourism BCG & SDG เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการไปพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการ และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวในยุค New Normal/Next Normal ให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 1,000 ราย” นายวีระพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ สสว.จะจัดให้มีกิจกรรม การเชื่อมโยงธุรกิจ (Business Collaboration) เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจให้กับผู้ประกอบการจำนวน 1,000 ราย ดำเนินการจัดทำเวิร์กชอปเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการต้นแบบธุรกิจใน 5 สาขาอาชีพ ได้แก่ บริการ พาหนะทางน้ำและบก โรงแรมและที่พัก ร้านอาหาร นำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และธุรกิจสปา กับ 15 แหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยกิจกรรมแต่ละครั้งจะประกอบด้วยผู้ประกอบการต้นแบบธุรกิจ 5 สาขาอาชีพ เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 15 ชุมชน เพื่อให้ได้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว แล้วนำไปพัฒนาเป็นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวต้นแบบที่ยั่งยืนต่อไป
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งได้สมัครและได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมแล้วทั่วประเทศจากพื้นที่ต่างๆ อาทิ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยชุมชนบ้านไร่กองขิง จ.เชียงใหม่ ชุมชนบ้านศาลาบัวบก จ.ลำปาง บ้านท่าชัย จ.สุโขทัย วิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์อนุรักษ์บ้านเชียงแหว จ.อุดรธานี ชุมชนบ้านปะอาว จ.อุบลราชธานี บ้านสวาย จ.สุรินทร์ ชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม กรุงเทพฯ ชุมชนสามพราน จ.นครปฐม ชุมชนริมน้ำจันทบูร จ.จันทบุรี ชุมชนคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช และ วิสาหกิจชุมชนตะโล๊ะใส จ.สตูล เป็นต้น ซึ่งชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประโยชน์ทั้งเชิงความรู้ ทราบแนวทางความต้องการนักท่องเที่ยวที่ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และยังได้รับการโปรโมทชุมชนของตนให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป
นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาเชิงลึกให้กับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว 15 กลุ่ม โดยดำเนินการพัฒนาในด้านต่างๆ เป็นต้นว่า สตอรี่เทลลิ่ง บิซิเนส โมเดล ดิจิทัล คอนเทนต์ เครือข่ายธุรกิจแบบ B2B, Virtual Tour ทั้งนี้ เพื่อสร้างต้นแบบกลุ่มท่องเที่ยวธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน และจัดทำต้นแบบทางธุรกิจ (Success Case) ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบการรายอื่นๆ
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว สสว.มีเป้าหมายในการสร้างผู้ประกอบการ หรือ บุคลากรที่ได้รับการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวยุคใหม่ จำนวน 1000 ราย มีผู้ประกอบการที่ได้รับการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการต้นแบบธุรกิจ กับแหล่งท่องเที่ยวชุมชน 1000 ราย/15 ชุมชน และสามารถ สร้างต้นแบบกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 15 กลุ่มธุรกิจ คาดว่า เมื่อผู้ประกอบการนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการประกอบธุรกิจ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
A4399