- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Monday, 15 December 2014 23:27
- Hits: 4849
'ก.อุตสาหกรรม'ตั้งเป้ากลางปี 58 ดันราคา'ยางพารา' 65บาทต่อกก.
แนวหน้า : นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ตามที่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางขั้นปลายในประเทศยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร เนื่องจากมีประสิทธิภาพการผลิตต่ำ และยังมีเทคโนโลยีการผลิตที่ล้าสมัย รวมไปถึงการมีอุปทานส่วนเกิน และการนำยางไปแปรรูปในสัดส่วนที่น้อย ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหน่วยงานหลักในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม ได้มีบทบาทในการดำเนินการภายใต้แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบ ในส่วนของการสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยางขั้นปลายน้ำ โดยได้กำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มอุปสงค์การใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม สร้างกลไกผลักดันราคายางในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมยางพาราของไทยเติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งเป้าหมายราคายางพาราในท้องตลาดให้กลับมาอยู่ระดับ 65 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ช่วงกลางปี 58 นี้ โดยปัจจัยมาจากมาตรการรัฐบาล และสถานการณ์โลกทั้งด้านราคาน้ำมันและเศรษฐกิจ สำหรับมาตรการรัฐบาลทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาด ผ่านสินเชื่อ 2 โครงการ คือ สินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะซื้อยางส่วนเกินออกจากระบบรวม 2 แสนตัน มี 5 ธนาคาร คือ กรุงไทย กรุงเทพ ทหารไทย กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ร่วมปล่อยกู้ และสินเชื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต 1.5 หมื่นล้านบาท สนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางใช้ปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้นรวม 300,000 ตัน มีธนาคารออมสินและกระทรวงอุตสาหกรรมรับผิดชอบ โดยทั้ง 2 โครงการ จะดูดซับยางเข้าระบบรวม 5 แสนตัน ทำให้ปริมาณการใช้ยางในไทยเพิ่มเป็นประมาณ 1 ล้านตัน ดันให้ราคาเป็นไปตามเป้าหมาย
"สินเชื่อทั้ง 2 โครงการ กำหนดอัตราดอกเบี้ย 5% รัฐบาลชดเชยให้ 3% และผู้ประกอบการชำระเอง 2% โดยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทยรับผิดชอบสินเชื่อ 300 ล้านบาท เนื่องจากเป็นสินเชื่อเร่งด่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดให้ผู้ประกอบการสมัครเข้าโครงการ ด้านสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินรับผิดชอบสินเชื่อ 4,500 ล้านบาท เนื่องจากเป็นสินเชื่อระยะยาว 10 ปี ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจ 19 ราย ผ่านเกณฑ์เบื้องต้นจากธนาคารออมสินแล้ว 3 ราย และอยู่ระหว่างส่งต่อให้กระทรวงอุตสาหกรรมอนุมัติตรวจสอบข้อมูลเครื่องจักร ยอมรับว่าจะต้องตรวจสอบให้ละเอียดแม้จะทำให้การอนุมัติล่าช้า" นายอุดม กล่าว
นอกจากนี้ ปัจจัยด้านราคาน้ำมันโลกและสถานการณ์เศรษฐกิจก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน แต่ราคาน้ำมันดิบจะต้องปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีหน้าอยู่ที่ระดับ สมมติฐาน 93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากปัจจุบันราคาน้ำมันอยู่ที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งเศรษฐกิจจะต้องกลับมาฟื้นตัวจนทำให้การบริโภคยางทั่วโลกเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ยังเตรียมนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมยาง เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ คือ โครงการส่งเสริมพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ยาง เพราะยังมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพมาตรฐานสากล และยังพบปัญหาถูกบางประเทศที่มีอำนาจต่อรองสูงใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีต่างๆ เป็นเงื่อนไขในการกีดกันทางการค้า ดังนั้น การเพิ่มมาตรฐานจึงสำคัญ ขณะเดียวกันจะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมยาง จ.สงขลา พื้นที่ 1,197 ไร่ เพื่อแปรรูปยางขั้นต้น กลางน้ำ และปลายน้ำ ภายใต้แนวคิดโครงการเมืองยาง คาดว่าจะเสร็จประมาณเดือน พ.ค.58
นายอุดม กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันจะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา เพื่อผลิตสินค้าจากยางในรูปแบบใหม่ๆ จากเดิมที่มีเพียงยางรถยนต์ ถุงมือยาง โดยจะร่วมมือกับภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ส่งเสริมด้านการวิจัยให้ตรงกับความต้องการของเอกชน ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายจากเอกชนด้านต่างๆ แล้วประมาณ 173 ราย
