WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1aECO Innovation

กนอ.- ...จัดงานสัมมนาวิชาการ ‘ECO Innovation Forum 2022’ ยกระดับพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ผ่านหลักการ ‘6S’ ใช้ทรัพยากรคุ้มค่า ลดมลพิษ-ผลกระทบชุมชน

          การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จับมือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (...) จัดงานสัมมนาวิชาการ “ECO Innovation Forum 2022” ภายใต้แนวคิด ‘Eco Journey to Carbon Neutrality’ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ผ่าน 6 ด้านหลัก หรือ ‘6S’ ที่มุ่งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) และการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industrial Town) สอดรับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ เน้นใช้ทรัพยากรคุ้มค่า ลดมลพิษ ลดผลกระทบจากการประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ตอบโจทย์การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)

          นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในระหว่างการเป็นประธาน และปาฐกถาพิเศษ “6S” ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยฝ่าวิกฤตสู่ความยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการประกอบกิจการให้พัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG (Bio-Circular-Green) Economy Model ด้วยการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานและเทคโนโลยีอย่างง่ายเพื่อการผลิตไปสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยองค์ความรู้และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง

          โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้วางกลไกขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย โดยกำหนดเป็นนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย 6 ด้านหลัก หรือ ‘6S’ ประกอบด้วย

          S1 : Smart Agricultural Industry หมายถึง การส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Intelligent Agricultural Industry) โดยสนับสนุนการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมในภาคเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

          S2 : S-Curve หมายถึง การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง (Potential Target Industries) ภายใต้มาตรการและ แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและแผนระดับชาติ

          S3 : SMEs and Factory 4.0 หมายถึง การพัฒนาผู้ประกอบการและภาคการผลิตไปสู่ 4.0 โดยสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการอัจฉริยะ ส่งเสริม SMEs และวิสาหกิจชุมชนให้มีผลิตภาพ ลดต้นทุน ลดของเสียในกระบวนการผลิต เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัล

          S4 : Sustainable Development หมายถึง การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industrial Town) ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของชุมชน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อลดมลพิษและบรรเทาผลกระทบจากการประกอบการอุตสาหกรรมต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

          S5 : Special Zone and Industrial Area หมายถึง การพัฒนาอุตสาหกรรมในมิติพื้นที่ (Area-based Industrial Development) โดยพัฒนาอุตสาหกรรมในพื้นที่พัฒนาพิเศษ เขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล พื้นที่อุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมพื้นฐานในพื้นที่พิเศษภายใต้แนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ยึดโยงกับบริบทของพื้นที่

          S6 : Supportive and Digital Transformation หมายถึง การยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม (Enabling Factors) เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการที่สะดวกและรวดเร็ว บูรณาการและเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ตลอดจนเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพบุคลากรด้านดิจิทัล

 

sme 720x100

BANPU 720x100

 

          รศ.ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-industrial Town) เป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มุ่งเน้นใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดมลพิษ และบรรเทาผลกระทบจากการประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

          อีกทั้ง ยังขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับแนวทางการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) เนื่องจากสถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักในหลายพื้นที่

          ซึ่งการจัดงานในปีนี้ นอกจากเป็นงานสัมมนาวิชาการแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ผลการดำเนินงานเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในระดับนิคมอุตสาหกรรมและโรงงาน เชิดชูเกียรติแก่นิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม และผู้เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างยั่งยืน สนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทย ด้วย BCG Model ของกระทรวงอุตสาหกรรม และการยกระดับเพื่อมุ่งสู่ Carbon Neutrality

          นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (...) และประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน กล่าวต่อว่า ภาคอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาตนเองสู่ความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) การใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-products) ที่สามารถส่งเสริมและสนับสนุนภาคส่วนอื่นๆ และการบริโภคอย่างยั่งยืนของประชาชน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต (Supply chain)

          โดย ... มีวิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิมโดยได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมให้นำหลักการ BCG ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินกิจการขององค์กร และจัดตั้งสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในการพัฒนา Thailand Carbon Credit Exchange Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของประเทศสำหรับการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต รวมทั้งมีการจัดตั้ง RE100 Thailand Club เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน ทดแทนพลังเดิมที่ก่อมลภาวะให้กับโลก

          ภายในงานมีการจัดเสวนาวิชาการในหลายประเด็น อาทิ ผลสำเร็จการพัฒนานิคมฯ และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) การเสวนาในหัวข้อ New Chapter ของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การเสวนาในหัวข้อ Trend อุตสาหกรรม/นวัตกรรมใหม่ก้าวสู่ Carbon Neutrality’และการบรรยายพิเศษเรื่องเท่าทันกฎหมายและสิทธิประโยชน์ใหม่

          รวมทั้ง มีพิธีมอบโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตรเกียรติคุณให้กับนิคมอุตสาหกรรมที่ยกระดับเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ Eco-World Class จำนวน 6 แห่ง ระดับ Eco-Excellence จำนวน 20 แห่ง ระดับ Eco-Champion จำนวน 38 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรม 4.0 จำนวน 2 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) จำนวน 70 แห่ง โรงงานเครือข่ายลดก๊าซเรือนกระจกดีเด่น จำนวน 4 แห่ง และวอเตอร์ฟุตพริ้น (Water Footprint) จำนวน 10 แห่ง โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม นักวิชาการ ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ไม่ต่ำกว่า 500 คน

 

Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100

QIC 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!