- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Tuesday, 01 February 2022 21:20
- Hits: 10630
ปลัดฯกอบชัย ร่วมเปิดตัวรถไฟฟ้า EV Mining Truck เพื่อใช้ในเหมืองปูนซีเมนต์รายแรกของไทย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยกระดับการก่อสร้างไทยสู่ Green Construction ตามแนวทางอุตสาหกรรมเหมืองแร่สีเขียว
จ.นครศรีธรรมราช : วันที่ 28 มกราคม 2565 นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นประธานเปิดตัวรถบรรทุกหินปูนขนาด 60 ตันชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) แห่งแรกในประเทศไทย ณ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย(ทุ่งสง) จำกัด จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Green Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และ นายวิเชษฐ์ ชูเชื้อ Managing Director - South Chain ร่วมพิธี
ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาครัฐและองค์กรธุรกิจภาคเอกชนในโครงการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่รัฐบาลสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชน กระตุ้นให้เกิดการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่เกิดจากการสันดาปภายในของเครื่องยนต์ทั่วไป
โดยในปีนี้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด นำรถบรรทุกหินปูนขนาด 60 ตัน ชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) จำนวน 4 คัน นำร่องส่งมอบหินปูนด้วยพลังงานสะอาด และคาดว่าจะเปลี่ยนรถบรรทุกหินปูนเป็นชนิดไฟฟ้าได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 สามารถลด CO2 ได้รวม 1,148 ตัน CO2/ปี
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “กระทรวงฯ ขานรับนโยบายภาครัฐเพื่อบรรลุเป้าหมายของ COP26 ที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593 โดยการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้ภาครัฐ และเอกชนบูรณาการร่วมกันในการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการลงทุนและสนับสนุนผู้ประกอบการ
รวมถึงเร่งผลักดันสิทธิประโยชน์และมาตรการรองรับด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมส่งเสริมและบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ ตามแนวนโยบาย BCG Model ของกระทรวงฯ ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่าง มีประสิทธิภาพ”
นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า “กพร.มีนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานที่ดี ยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการให้มีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาและยกระดับการประกอบอุตสาหกรรมแร่ของประเทศ สอดคล้องตามนโยบายการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน
และสร้างมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining) ซึ่งโครงการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า EV Mining Truck เป็นประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นละออง PM 2.5”
นายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Green Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า“เอสซีจี พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามความมุ่งหวังของเอสซีจีที่จะยกระดับการก่อสร้างไทย สู่ Green Construction เพื่อให้การก่อสร้างของประเทศเกิดการพัฒนา
พร้อมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเอสซีจีที่ยึดหลัก ESG 4 Plus ได้แก่ 1. มุ่งสู่ Net Zero 2. Go Green 3.Lean ความเหลื่อมล้ำ 4.ย้ำความร่วมมือ ภายใต้ความเป็นธรรม โปร่งใส ที่คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคม และมีบรรษัทภิบาล
รวมถึงธุรกิจ Cement and Green Solution รวมถึงธุรกิจ Cement and Green Solution ยังมุ่งพัฒนาการดำเนินงานในระดับมาตรฐานสากลผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้และสร้างความร่วมมือต่างๆ กับองค์กรชั้นนำระดับโลก ในงานนี้เอสซีจีเดินหน้าร่วมเป็นอุตสาหกรรมสีเขียวด้วยการทำเหมืองตามแนวทาง Green Mining นำร่องเปิดตัวการใช้งาน รถบรรทุกงานเหมืองแร่ ชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) ขนาดบรรทุก 60 ตัน จำนวน 4 คัน เพื่อส่งมอบหินปูน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปูนซีเมนต์
ด้วยพลังงานสะอาด สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2) ได้ถึง 71.78 ตันCO2/ปี/คัน หรือทดแทนการปลูกต้นไม้ได้ 7,555 ต้น/ปี เอสซีจียังคงมุ่งหน้าดำเนินการเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งกระบวนการผลิต โดยตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนรถบรรทุกหินปูนให้เป็นชนิดไฟฟ้า 100% ซึ่งคาดว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด จะเปลี่ยนได้ครบภายในปีพ.ศ. 2568 และจะขยายผลไปยังโรงงานปูนซีเมนต์อื่นๆ ในธุรกิจ Cement and Green Solution Business ต่อไป รวม CO2 ที่จะลดได้ทั้งหมดเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นประมาณ 9,852 ตันCO2/ปี