- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Friday, 10 December 2021 21:43
- Hits: 8147
ก.อุตฯ แถลงมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล 13 ธันวาคม 2564 นี้
กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมจัดงานพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister's Industry Award 2021) 13 ธันวาคม 2564 นี้ ที่สโมสรทหารบก ตอกย้ำความสำเร็จการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยตามนโยบายรัฐบาล โดยมีผู้ประกอบการได้รับรางวัลรวม 63 ราย จากผู้สมัครทั้งสิ้น 332 ราย
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการตามแนวนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้มีศักยภาพในทุกด้าน ทั้งในด้านพลังงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสันติและมีความสุข สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชน
การมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister's Industry Award 2021) ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลฯ ในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นอีกกิจกรรมในการส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ปีนี้นับเป็นปีที่ 29 ที่นายกรัฐมนตรีให้เกียรติเป็นประธานในการมอบรางวัล เพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกระดับที่มีความเป็นเลิศในแต่ละด้าน ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พลังงาน ความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรม โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการประกอบการในด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้กระทรวงอุตสาหกรรมมอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานรางวัลอุตสาหกรรม มีรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 15 ประเภทรางวัล ดังนี้
- รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพ
ในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการลงทุน มีการนำความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมทั้งนวัตกรรมมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของตนเอง และสามารถสร้างการพัฒนาให้กับอุตสาหกรรมในภาพรวมได้อย่างชัดเจน
- รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น แบ่งออกเป็น 9 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการเพิ่มผลผลิต 2) ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3) ประเภทการบริหารความปลอดภัย 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5) ประเภทการจัดการพลังงาน 6) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน 7) ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ ? ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม และ 9) ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน
- รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการบริหารจัดการ 2) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ 3) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม 4) ประเภทการบริหารธุรกิจสู่สากล และ 5) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน
ซึ่งมีสถานประกอบการสมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 332 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 6 ราย และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นทั้ง 14 ประเภท รวม 326 ราย ทุกรายผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะทำงานแต่ละประเภทรางวัลอย่างเข้มงวดหลายด้าน แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 แสดงถึงความมุ่งมั่น วิริยะอุตสาหะ ในการพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมีสถานประกอบการผ่านการคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี จำนวนทั้งสิ้น 63 ราย ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับรางวัลได้ที่ https://industryaward.industry.go.th/th
“พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister's Industry Award 2021) กำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2564 เวลา 14.00 น. ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต โดยได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธี โดยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดงานพิธีมอบรางวัลดังกล่าวได้ทางสถานีโทรทัศน์ NBT ในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งการจัดงานได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมงานทุกคน” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว