- Details
- Category: อุตสาหกรรม
- Published: Saturday, 25 October 2014 12:34
- Hits: 4486
ทางรอดอุตฯ ไทยเร่งปรับตัวสู้ AEC
บ้านเมือง : นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง'อยู่หรือไป? อนาคตอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน'ซึ่งจัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ว่า อาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูงในอนาคตจะเป็นทั้งตลาดและฐานการผลิตที่สำคัญของหลายอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่อุตสาหกรรมของประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยจะเติบโตได้อีกมาก โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการหลายรายทั้งไทยและต่างชาติประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดและขยายฐานการผลิตในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม หรือที่เรียกกันว่ากลุ่มประเทศ CLMV ก่อนหน้าการเริ่มต้นเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อย่างเป็นทางการในปีหน้า ซึ่งการเชื่อมโยงตลาดและฐานการผลิตในอาเซียนเป็นสิ่งจำเป็นแต่ที่ผ่านมาการปรับปรุงกฎระเบียบและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยังตามไม่ทัน ภาครัฐจึงควรเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้เอกชนไทยเสียโอกาสและความสามารถในการแข่งขัน สิ่งที่ภาคเอกชนอยากให้เกิดขึ้น เช่น การเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกทั้งหมดเข้าด้วยกันภายใต้ระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว หรือ National Single Window ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใส ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับภาคเอกชนได้มาก
ในการสัมมนายังได้มีการประเมินอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนไทยยังจะเป็นศูนย์กลางการผลิตของอาเซียนต่อไป เนื่องจากมีความได้เปรียบจากการมีคลัสเตอร์ที่เข้มแข็งทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยอยู่ในระดับต่ำ แต่จะต้องแข่งขันกับอินโดนีเซียมากขึ้น และนักลงทุนญี่ปุ่นเริ่มใช้ยุทธศาสตร์ขยายฐานการผลิตชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตไม่สูง แต่ใช้แรงงานอย่างเข้มข้นไปกลุ่มประเทศ CLMV แล้วให้ไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อกับฐานการผลิตใหม่เหล่านี้ เอกชนไทยจึงควรใช้โอกาสนี้ในการขยับขึ้นเป็นผู้บริหารจัดการเครือข่ายการผลิตในภูมิภาค ไปวางระบบการผลิตและสอนงานพนักงานในประเทศเหล่านี้ โดยใช้ฐานความรู้ความเชี่ยวชาญของตัวเองที่สั่งสมมานาน ควบคู่ไปกับการทำวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมให้มากขึ้น
โดยมีเอกชนไทยกลุ่มหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญของตนในการบริหารจัดการเครือข่ายการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ความท้าทายต่อไปของเอกชนกลุ่มนี้คือการขยับไปเป็นผู้ที่สามารถยื่นข้อเสนอแก่ผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับการเลือกใช้วัตถุดิบ การกำหนด สเปกต่างๆ อย่างไรก็ตามทางรอดของอุตสาหกรรมไทยเมื่อเข้าสู่ AEC ยังต้องปรับบทบาทในสภาพแวดล้อมใหม่ โดยการมองตลาดและฐานการผลิตในระดับภูมิภาค ขยับจากการเป็นผู้ผลิตอย่างเดียวมาเป็นผู้บริหารจัดการเครือข่ายการผลิตในภูมิภาค และเน้นการพัฒนาจากการเลียนแบบให้เร็ว แล้วทำวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเองเมื่อพร้อม